ลูกเมียนักธุรกิจไม่เชื่อถูกเรียกค่าไถ่!! เพราะธุรกิจน้ำตาล ที่บ้านไม่มีเงินขอปล่อยตัว

หลังจากที่ ณีนายสิงห์แก้ว วงค์ใหญ่ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 382 หมู่ 10 ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน ถูกคนร้ายลักพาตัวพร้อมเรียกเงินค่าไถ่จำนวน 5 ล้านบาทมายังญาติ ล่าสุดหลังจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยโดยฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน และ สภ.เชียงแสน ได้สอบปากคำและพาญาติๆ เดินทางข้ามไปขอความร่วมมือในการติดตามช่วยเหลือถึงเมืองต้นผึ้ง โดยมีท่านไชสะเถียน เหรียนสัก รองเจ้าเมืองต้นผึ้ง ได้รับเรื่องไว้

นางศรีวรรณ ภรรยาและลูกได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุที่นายสิงห์แก้วถูกลักพาตัว เพราะการทำธุรกิจซื้อขายน้ำตาลทรายได้เลิกไปแล้วกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนเรื่องเงินที่คงค้างกันอยู่ก็ได้ชำระไปจนหมดแล้วจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องนี้ ส่วนการส่งออกโค กระบือและสุกร โดยนายสิงห์คำ เดินทางข้ามไปมาระหว่างไทย-สปป.ลาว บ่อยครั้ง แต่ช่วงหลังก็ส่งออกไปได้น้อยเพราะส่งเข้าไปยังตลาดประเทศจีนได้ยากทำให้บางเดือนไม่มีการสั่งซื้อ จึงฃหันมาทำธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำซึ่งต้องเดินทางไปยังฝั่งลาวบ่อยขึ้น

“ครอบครัวของเราไม่มีเงินมากถึง 5 ล้านบาทตามที่ถูกเรียกค่าไถ่จึงอยากขอให้ทาง สปป.ลาว ช่วยติดตามช่วยเหลือเพราะเป็นห่วงมาก และรู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาสามี เคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้ใดส่วนเรื่องธุรกิจก็ไม่เคยมีความขัดแย้งหรือปัญหาใหญ่ๆ จะมีบ้างก็ไม่ถึงขั้นเป็นเงินมูลค่าสูงถึง 5 ล้านบาทและยืนยันว่าปัญหาเรื่องการค้าน้ำตาลมูลค่าสูงนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้และเรื่องก็จบไปนานแล้วหลังจากที่ได้รับข้อความแชทให้โอนเงินก็ไม่ได้บอกเหตุผลและเขาก็ติดต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ค. จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ทางญาติก็ยังไม่ได้โอนเงินให้เพราะไม่มีเงินมากขนาดนั้น ซึ่งก็อยากให้ทางการลาวช่วยและขอให้คนที่กักขังตัวเอาไว้ได้ปล่อยตัวออกมาด้วยเพื่อจะได้หาทางออกร่วมกันต่อไป” นางศรีวรรณและลูกๆ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น