เชื่อมตลาดจีเท็คไทย-นำยักษ์ธุรกิจจีน จับคู่ธุรกิจชุมชนไทย

วันที่ 30 ก.ค. 62 ณ ห้องประชุม โรงแรมเดอะเฮอริเทจ จ.เชียงราย นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนานานาชาติ เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในกลุ่มจีเอ็มเอสและประเทศไทย หรือจีเท็ค “(GMS-THAILAND E-COMMERCE ECONOMIC CORRIDOR : GTEC 2019) โดยมีนักธุรกิจไทย สปป.ลาว และเมียนมา รวมทั้งประเทศจีน เข้าร่วมครบครัน ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการคัดสรรเป็นอย่างดีจากกลุ่ม 17 จังหวัดภาคเหนือของไทย จำนวนกว่า 300 ราย รวมทั้งมีกิจกรรมสัมมนา พบปะทางธุรกิจหรือบิสเน็สแม็ชชิ่ง โดยเฉพาะมีเอกชนจากประเทศจีน ที่ประสบความสำเร็จในการค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ คือบริษัทเป่ยเตี้ยนและกลุ่มแครอท มอล ไชน่า เข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยบริษัทเป่ยเตี้ยน ได้นำผู้ประกอบการในเครือเข้าร่วมกว่า 30 ร้านค้าด้วย ทำให้เกิดการจับคู่กับผู้ประกอบการชุมชนของไทยกว่า 100 รายด้วยกัน โดยนักธุรกิจจีนให้ความสนใจในสินค้าไทยรูปแบบต่างๆ ทั้งประเภทอาหาร ของใช้ ฯลฯ
นางลลิดา กล่าวว่าปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผู้ประกอบการไทย เพื่อการส่งออกสินค้าไทย และพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซ การผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีระบบชำระเงิน สะดวกในการจัดส่งหรือมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมด้านการเชื่อมโยงการตลาดด้วย ดังนั้นกิจกรรมในครั้งนี้ จึงถือว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยอย่างมาก โดยเฉพาะมีผู้ประกอบการจีนที่ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จในการค้าขายออนไลน์แล้ว โดยสามารถนำมาแก้ไขปัญหาความยากจนได้ หรือที่รู้จักกันดีในนามหมู่บ้านเถาเป่าโมเดล และที่ผ่านมาประเทศไทยพยายามนำรูปแบบมาถอดบทเรียน เพื่อนำมาดำเนินการ ซึ่งก็พบว่าต้องมีองค์ประกอบคือผู้นำต้องเข้มแข็ง ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี ผู้ประกอบการเป็นมืออาชีพและศักยภาพในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ และได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมที่ จ.เชียงราย ในครั้งนี้ถือว่ามีค่อนข้างครบถ้วน รวมไปถึงการได้พบปะกับตลาดจีนโดยตรง และถึงขั้นมีการบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูร่วมกัน ระหว่างภาคเอกชนกับเอกชน ซึ่งเชื่อว่าจะเปิดโอกาสให้กับสินค้าไทยได้เป็นอย่างดีต่อไป

นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่าภารกิจหลักของ สปปน. คือการส่งเสริมให้มีการจัดการประชุมสัมนนาและนิทรรศการในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย และยังปรับให้มีการส่งเสริมการค้าการลงทุนได้โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มประเทศในจีเอ็มเอสมีการค้ากันในปี 2561 เป็นมูลค่ามากถึง 670,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดทำให้ สสปน. เล็งเห็นว่าสามารถใช้บทบาทกระตุ้นภาคธุรกิจไทยได้ ซึ่งการจัดการประชุมที่ จ.เชียงราย ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มเติมโดยเป็นพื้นที่ที่มีการค้าการลงทุนกับประเทศในจีเอ็มเอสมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะเอกชนรายใหญ่ของจีนทั้ง 2 ราย ที่มีเครือข่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในประเทศจีน ได้เข้ามาดูสินค้าโดยตรง จากนั้นก็จะขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทยได้ต่อไป ด้าน นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานบิสคลับ ประเทศไทย กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นำแพล็ตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน มาเจรจาจับคู่ทางการค้ากับผู้ประกอบการจากชุมชนไทยโดยตรง คาดว่าจะเกิดมูลค่าทางการค้าขึ้นในชุมชนต่างๆ ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท.

ร่วมแสดงความคิดเห็น