หนุ่ม-สาวลำพูน เมินโรงงาน หันทำอาชีพอิสระมากขึ้น

ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล เครือโรงงานดังในเขตนิคมภาคเหนือ กล่าวว่า อัตราการสมัครงานฝ่าย
ผลิตของคนหนุ่มสาว (20-25 ปี) ในพื้นที่ลำพูน ลดลงมาก ทั้ง ๆ ที่ มีค่าแรงขั้นต่ำ ค่ากะ เบี้ยขยัน ค่าล่วงเวลา พร้อมสวัสดิการเพื่อ สร้างแรงจูงใจค่อนข้างมาก ที่ทำงานกันส่วนใหญ่ขณะนี้จะอายุ 40 ปีขึ้น มีภาระทำให้ตัดสินใจ ทำอย่างอื่นค่อนข้างลำบาก แต่ในระบบโรงงานต้องการคนหนุ่มคนสาวเข้ามาเติม
ทั้งนี้ส่งผลให้กระบวนการผลิตบางขั้นตอน ต้องพัฒนานำระบบ ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาใช้ แม้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงแต่ทราบว่า หลาย ๆ โรงงาน เช่น ในกลุ่มอีเลคทรอนิกส์ ก็หาทางรับมือด้านบุคลากรไว้แล้ว ที่เปิดรับ ส่วนใหญ่จะเป็นระดับหัวหน้างาน, วิศวกร, ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน ส่วนแรงงานทั่ว ๆ ไป
ตามสายการผลิต อยู่ไม่ค่อยทน เนื่องจากเป็นงานจำเจ ต้องยืนเป็นกะนาน ๆ คนรุ่นหนุ่มสาว เจอสภาพแบบนี้ไม่มีร่ำลา ออกไปเลยก็มี “เอก” (นามสมมติ) เจ้าของร้านอาหารย่านสันป่าฝ้าย เมืองลำพูน วัย 35 ปี กล่าวว่า เคยอยู่ในระบบโรงงาน จบสารพัดช่าง ค่าจ้าง รายได้รวมกับภรรยาที่พบกัน ในโรงงานก็ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท แต่อยู่ไม่ได้ เนื่องจากสายงานผลิตแรกๆก็ไม่รู้สึกอะไร แต่นาน ๆ ไป สภาพที่เผชิญ ทั้งกลิ่น สาร ทำให้กังวล โดยกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะมาตรฐานใดก็คือโรงงาน เลยตัดสินใจมาเปิดร้านเหล้า ทำในสิ่งที่ชอบจริง ๆ ดีกว่า ช่วงหลังๆมีร้านเปิดเยอะทำให้รายได้ลดไปบ้าง แต่อยู่ได้เรื่อย ๆ จากการตรวจสอบข้อมูลในนิคมภาคเหนือในเขตส่งออกซึ่งมีเนื้อที่ กว่า 808 ไร่ ผลิตชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ภายใต้กระบวนการผลิตและขั้นตอนต่าง ๆ เช่น ฐานแผ่นวงจรไฟฟ้า ตัวกรองสัญญา ผลึกควอทช์ประกอบตัวไอซี เป็นต้น กระบวนการผลิตและวัตถุดิบถูกปกปิดเป็นความลับ ไม่มีผลวิจัยด้านอาชีวอนามัยว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานในสายงานผลิต
ช่วงปี 2537 กระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะทำงานศึกษาปัญหาและเสนอแนวทางยกระดับสุขภาพพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ แต่กลุ่มผู้ประกอบการไม่ยินยอมให้ เข้าตรวจสอบ โดยอ้างว่าคณะทำงานไม่เป็นกลาง ทำงานตามกระแส และมาตรฐานโรงงานแต่ละแห่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม คณะทำงาน ในการขยายพื้นที่เพื่อเปิดนิคมฯ เฟส 2 ยอมรับว่า กลุ่มผู้ลงทุน สนใจน้อย มี โรงงานเดิมไม่กี่แห่ง ที่สนใจ ขยายพื้นที่ลงทุนผลิตเพิ่ม แต่ข่าวลือ ย้ายฐานผลิตจากโรงงานนั้น โรงงานนี้ไปแถบเพื่อนบ้าน ไม่มี ที่เป็นปัญหาคือ คนเข้ามาในระบบโรงงานน้อยลง ส่วนใหญ่คนหนุ่มสาวลำพูน มีพื้นฐานครอบครัวดีมีไร่นาสวน พอที่จะเป็นหลักประกันสินเชื่อลงทุนตามที่ตั้งใจ เด็กรุ่นใหม่ ๆ หันไปทำอาชีพอิสระกันมากขึ้น
ประกอบกับ อุตสาหกรรมใหม่ ต้องมีเรื่อง จักรกล ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาในระบบ เป็นการทดแทนแรงงานในขั้นตอนที่เริ่มขาดแคลน ไม่น่าจะเป็นประเด็นว่า โรงงานในเขตนิคมฯ ผู้คนไม่สนใจมาทำงาน ทุกอย่างปกติ แต่ การหาคนมาทำในสายงานผลิต ไร้ทักษะจะเริ่มหายาก ส่วนระดับมีความรู้เฉพาะด้าน ยังขาดแคลน เป็นที่ต้องการ เช่น จักรกลโรงงาน, ควบคุมการผลิตระดับวิศวกร เป็นต้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น