เชียงใหม่–วอชด็อกไทยแลนด์-ปศุสัตว์ บุกคาเฟ่แมวกลางเมืองเชียงใหม่ หลังนักท่องเที่ยวร้องเรียน พบแมวถูกปล่อยผอมโซ

ตัวแทนกลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.เชียงใหม่ และตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบที่ร้านเวิร์คช้อป คาเฟ่แมว บนถนนสามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ตัวแทนกลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์ ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่าพบแมวหลายตัวในร้าน อยู่ในสภาพป่วยและผอมโซ แต่ทางร้านยังนำไปหารายได้ ด้วยการให้เล่นกับนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์
จากการตรวจสอบพบคาเฟ่แมวแห่งนี้ เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านกาแฟ ตรวจสอบชั้นที่ 2 พบเปิดเป็นห้องพักแมว พบแมวพันธ์ุเมนคูน เปอร์เซีย อเมริกันช็อตแฮร์ อยู่ประมาณ 8 ตัว แต่ละตัวอยู่ในสภาพผอมโซ บางตัวมีอาการป่วย มีน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลา
ส่วนชั้นที่ 3 เป็นห้องที่พักของแมว มีกรงแมวนับ 10 กรง มีแมวอยู่ภายในห้องทั้งที่อยู่ในกรงและนอกกรงอีกประมาณ 10 ตัว โดยเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ แต่อากาศไม่ถ่ายเท ส่งกลิ่นเหม็นอับรุนแรงทั่วทั้งห้อง ส่วนถาดอาหารแมว มีมดปะปนในถาด ขณะที่แมวในห้องเกือบทั้งหมด อยู่ในสภาพผอมและป่วย
นายภีมเดช ประสิทธิ์วรเวช อายุ 27 ปี ผู้ดูแลร้าน กล่าวว่า แมวที่ร้านมีทั้งหมดประมาณ 20 ตัว มีทั้งพ่อพันธ์ุ แม่พันธ์ุ และแมวผสม สาเหตุที่แมวไม่อ้วน เพราะตอนเด็กเคยเลี้ยงแมวจนอ้วน แต่พบว่าเมื่อมันอายุมากขึ้น จะอ้วนจนเดินไม่ได้และป่วยตาย หลังจากนั้นมาจึงเลี้ยงแมวไม่ให้อ้วน

 

สำหรับคาเฟ่แมวเปิดได้ประมาณ 2 ปี ยืนยันดูแลแมวเป็นอย่างดี ส่วนแมวที่ถูกมองว่าผอมโซ แล้วแต่มุมมอง แต่ความเห็นส่วนตัวมองว่า หากผอมเห็นกระดูกหรือมีอาการขาดน้ำ ก็จะยอมรับผิด แต่เห็นว่าแมวควรจะกินประมาณนี้ ไม่ต้องการให้อ้วน โดยให้อาหารเน้นโปรตีน ใช้อาหารที่ดีที่สุด ยืนยันดูแลดี

ด้าน น.ส.ศรัณย์ชนก พงศ์กมลานนท์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์วอชด็อกไทยแลนด์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าแมวทั้งหมดอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ทั้งห้องที่แม้จะมีเครื่องปรับอากากาศ แต่ก็ยังร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเท โดยแมวทั้งหมดเป็นพันธ์ุต่างประเทศ มีขนยาว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดโรค มีอาการป่วยได้ตามสภาพที่เห็น เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือเจ้าของร้าน ให้ปรับปรุงสภาพพื้นที่ และสุขอนามัยของแมวทั้งหมด แต่หากหลังจากนี้แมวเหล่านี้ ต้องอยู่ในสภาพแบบเดิม อาจเข้าแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากการใช้สัตว์ป่วยหาผลประโยชน์ เพราะมีการเก็บค่าบริการ ครั้งละ 20 บาท ถือว่ามีความผิดเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์

ร่วมแสดงความคิดเห็น