ผวจ.ลำปาง ลงเยี่ยมเกษตรกรรายย่อย อ.วังเหนือ ติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาอาชีพ

นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ในส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางลงพื้นที่ออกเยี่ยมเยือนชุมชนในเขตท้องที่ บ้านขันหอม หมู่ที่ 9 ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายสำคัญของรัฐ โครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร “1 ไร่ คลายจน” ทั้งนี้เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรผู้ร่วมโครงการ และดูผลความสำเร็จในการดำเนินงานพัฒนาอาชีพทำการต่อยอดสู่ความยั่งยืนของเกษตรกรในพื้นที่ หลังจากที่ทางเกษตรกรได้รับการสนับสนุนในเรื่องของปัจจัยการผลิตเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานสร้างอาชีพ
โดยการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการเยี่ยมชมผลการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว ของนางพัชรินทร์ ก๋าแก้ว เกษตรกรตัวอย่างในชุมขนบ้านขันหอม ที่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 9 ตำบลวังเหนือ ซึ่งนางพัชรินทร์ ได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเป็นวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับนำมาใช้ดำเนินการเพื่อเป็นทุนในการสร้างอาชีพ ทำสวนเกษตรปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และทำประมง
โดยการลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประกอบสัมมาชีพร่วมในโครงการ “1 ไร่ คลายจน” ครั้งนี้ พบว่าบนพื้นที่กว้างประมาณ 1 ไร่ เกษตรกรได้มีการจัดสรรพื้นที่ ทำเป็นสวนเกษตรแบบผสมผสาน มีทั้งที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งในส่วนของพื้นที่ทำกินได้มีการปลูกพืชไม้ผล ไม้ยืนต้น เพาะเห็ด ปลูกพืชผัก พืชสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งได้จัดทำบ่อซีเมนต์ไว้เพื่อทำการเลี้ยงกบ นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่อยู่อาศัยได้มีการจัดแบ่งพื้นที่ไว้ทำการปลูกบ้าน และจัดทำคอกสำหรับเลี้ยงสัตว์ “เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่” โดยพื้นที่ทั้งหมดเกษตรกรได้มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เป็นได้ทั้งแหล่งพื้นที่อาหารที่สามารถเลี้ยงคนในครอบครัวได้ และยังเป็นแหล่งสร้างอาชีพให้เกษตรกรมีรายได้จากการขายผลผลิตทั้งสัตว์ที่เลี้ยง และพืชผลที่เพาะปลูก
จากการสอบถามเกษตรกร นางพัชรินทร์ ได้กล่าวให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนรวมของครอบครัว มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 3 งานเศษ ซึ่งแต่เดิมครอบครัวของตนรวมถึงน้องสาวได้ใช้ผืนที่ดินแห่งนี้เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ทำการปลูกพืชทำสวนเกษตรบ้างเล็กๆ น้อยๆ โดยต่อมาได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ เข้ามาช่วยสอนในเรื่องของการทำสวนเกษตรปลอดสารพิษตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่หลักเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครัวของตนเห็นว่าเป็นวิธีการที่ดีจึงได้ทำตามเรื่อยมาอย่างจริงจัง ซึ่งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างต้องคอยศึกษาปรับปรุงหาวิธีการใหม่ๆ เพิ่มเติม ประกอบกับครอบครัวของตนเป็นครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยถือครองบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานเกษตรอำเภอ นำครอบครัวของตนเข้าร่วมเป็นหนึ่งในโครงการ “เกษตรผสมผสาน 1 ไร่ คลายจน” ของอำเภอวังเหนือเมื่อช่วงปลายปี 2561

โดยตนได้เข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง และการทำเกษตรผสมผสานตามแบบธรรมชาติ คือ การปล่อยให้พืชทุกอย่างแมลงทุกชนิดได้คอยช่วยเหลือและดูแลกันเองหมุนเวียนไปตามวัฏจักร เพียงแต่ให้คอยใส่ใจในการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ ซึ่งตนก็ได้นำมาทดลองทำในพื้นที่แปลงปลูกและก็ได้ผล นับแต่นั้นจึงได้ยึดเป็นหลักปฏิบัติใช้ในการประกอบอาชีพต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจากการที่ได้เข้าร่วมโครงการ “1 ไร่ คลายจน” ทางหน่วยงานภาครัฐก็ได้ช่วยสนับสนุนในเรื่องของปัจจัยการผลิต มอบไก่พันธุ์ไข่ให้ 28 ตัว พร้อมอาหาร 4 กระสอบ จัดทำโรงเรือนเลี้ยงไก่ให้ รวมทั้งมอบพันธุ์พืชไม้ผล มะม่วง มะนาว และฝรั่ง ให้ได้นำมาพัฒนาต่อยอดปลูกในแปลงสวนเกษตรที่มีอยู่
โดยนางพัชรินทร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ตนได้เข้าร่วมโครงการฯ หันมาทำการเกษตรแบบผสมผสาน ก็ได้ช่วยให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในทุกวันครอบครัวของตนแทบจะไม่ต้องเสียเงินเพื่อใช้จ่ายในเรื่องของค่าอาหาร แถมผลผลิตในส่วนที่เหลือยังได้นำไปขายมีรายได้กลับคืนเป็นเงินออมไว้สำหรับใช้จ่ายในยามฉุกเฉินด้วย โดยจากระยะเวลากว่า 10 เดือน ที่เข้าร่วมโครงการฯ ปัจจุบันได้ทำให้ครอบครัวของตนเริ่มที่จะมีรายได้รายวัน จากการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วทุกวันนี้ตนมีรายได้รวมเฉลี่ยประมาณ 100 บาท/วัน โดยมีรายได้จากการขายไข่ไก่เป็นหลัก มีรายได้เสริมจากการขายพืชผักที่ปลูก และมีรายได้เพิ่มอีก 2-3 เดือนต่อครั้งจากการเลี้ยงกบ โดยรายได้ที่เกิดขึ้นก็จะได้สะสมนำไปเป็นทุนหมุนเวียน เพื่อจะพัฒนาต่อยอดอาชีพให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและเกิดความยั่งยืนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น