“ส.จักรยาน” เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งส่งนักปั่นลุยแข่งต่างประเทศต่อเนื่อง สราวุฒิคว้าที่ 2 เอเชีย ปั่นทัวร์อิเหนา

สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งทัพนักปั่น 3 ชุดไปชิงชัยต่างประเทศ ประเภทลู่ชุดใหญ่ นำโดย “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” ไปสู้ศึก “เจแปน แทร็ค คัพ 2019” ที่ญี่ปุ่น ส่วนอีกชุดไปแข่งขันลู่ชิงแชมป์อาเซียน ที่มาเลเซีย รวมทั้งทีมเสือภูเขา ด้วยเช่นกัน ด้านปั่นทางไกล “ทัวร์ เดอ อินโดนีเซีย 2019” ที่อินโดนีเซีย “สราวุฒิ สิริรณชัย” คว้าที่ 2 เอเชีย ในสเตจที่ 3 หลังจากปั่นหนีมากับกลุ่มผู้นำตั้งแต่ช่วง 10 กม. แรก
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานประเภทลู่ทีมชาติไทย ไปแข่งขันรายการ “เจแปน แทร็ค คัพ 2019” ระดับคลาส 1 ของสหพันธ์จักรยานานาชาติ (ยูซีไอ) ที่เมืองชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค. โดยออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 20 ส.ค. ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG642 และถึงสนามบินนาริตะ เมื่อเวลา 08.10 น. ของวันที่ 21 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น มีนักกีฬา 9 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 5 คน นำโดย “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์, วรยุทธ คะปัญญา, นิติรุจน์ กิจพิริยะการณ์, วิศวกร แก้วทอง, ทักษ์ แก้วน้อย, นักกีฬาหญิง 4 คน ได้แก่ กัญญารัตน์ หน่อแก้ว, เยาวเรศ จิตมาตย์, ภาสิริ เจริญทรัพยานนท์, แว่นแก้ว น้ำคำ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ 2 คน คือ มร.ชุง มอง จุน ผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ และ พ.อ.อ.นรุตม์ชัย ข้อยุ่น ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
พลเอกเดชา กล่าวว่า นอกจากนี้สมาคมฯ ยังได้ส่งนักกีฬาประเภทลู่อีกหนึ่งชุดไปแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนรายการ “เซ้าท์ อีสต์ เอเชีย แทร็ค คัพ จีพี 2019” ซึ่งบรรจุในปฏิทินของ “ยูซีไอ” ระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค. ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย นักกีฬาประกอบด้วย วรุฒ แปะกระโทก, ยุทธนา มะโน, กัณตภณ คุณคุ้มภัย, นนท์ศักดิ์ อรรถธรรม, ภราดร สุรมณี โดยมี สิบเอกหญิง วิไลวรรณ กุลภา เป็นผู้ควบคุมทีม รวมทั้งได้ส่งนักกีฬาเสือภูเขา ไปแข่งขันยูซีไอ เมาเท่นไบค์ ซีรี่ส์ รายการ “เอสไอโอแอล อินเตอร์เนชั่นแนล เมาเท่นไบค์ ชาลเลจน์ 2019” ที่เมืองกูชิง รัฐซาราวัค ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค. มีนักกีฬาดังนี้ รุ่นประชาชนชาย กีรติ สุขปราสาท, บุณยวัทน์ ปราโมทย์, สืบสกุล สุขจรรยา, รุ่นประชาชนหญิง สุรัตติยา บุบผา, ศิริภัสสร ชาติกำเนิด, อคิราภ์ แสงขำ, รุ่นเยาวชนชาย พูนศิริ ศิริมงคล, พลฉัตร นาคทองคำ, อธิพงษ์ สุวรรณสิงห์, รุ่นเยาวชนหญิง ยลธนันท์ พลกล้า, จริญญา สืบจากถิ่น โดยมี เรือตรีฉลอง ปานผ่อง เป็นผู้ฝึกสอน, จ่าเอกเสรี เรืองศิริ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน, จ่าเอกสันติ คชรัตน์ เป็นช่างประจำทีม
“นักกีฬาประเภทลู่ และเสือภูเขาที่ไปแข่งขันยังประเทศมาเลเซีย ออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 21 ส.ค. จะเห็นได้ว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง มีการส่งนักกีฬาชุดต่าง ๆ ไปแข่งขันและฝึกซ้อมที่ต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ พัฒนาฝีมือให้แข็งแกร่ง รวมทั้งสร้างผลงานและชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง ในส่วนของ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ไปแข่งที่ญี่ปุ่นก็เพื่อรักษาอันดับโลกของตัวเอง ในการลุ้นคว้าโควต้าไปแข่ง เวิลด์ คัพ ซีรี่ส์ ซึ่งเป็นรายการสำคัญที่จะเก็บคะแนนสะสมเพื่อควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น” พลเอกเดชา กล่าว
ด้าน ร้อยตำรวจเอกอดิศักดิ์ วรรณศรี ในฐานะผู้จัดการทีม และหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมปั่นอาชีพชาย “ไทยแลนด์ คอนคิเนนตัน” รายงานการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติรายการ “ทัวร์ เดอ อินโดนีเซีย 2019” ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในระดับ 2.1 ของยูซีไอ เมื่อ 21 ส.ค. เป็นการแข่งขันสเตจที่ 3 จากเมืองโกตาบารู ไปเมืองเจมเบอร์ ระยะทาง 193 กม. เป็นทางเรียบ มีเนินเล็กน้อยช่วงก่อนเข้าเส้นชัย ผลปรากฏว่า นักปั่นไทยทำผลงานได้ยอดเยี่ยม สราวุฒิ สิริรณชัย ปั่นเข้าอันดับที่ 6 ด้วยเวลา 4.17.14 ชั่วโมง และเป็นอันดับที่ 2 ของนักปั่นเอเชีย รวมทั้งได้อันดับที่3 ในการแย่งชิงเจ้าความเร็วจุดที่ 1 (IS1) ส่วนแชมป์สเตจที่ 3 ได้แก่ มาร์คัส คูลีย์ นักปั่นออสเตรเลีย จากทีมซาปูร่าไซคลิง เวลา 74.15.35 ชั่วโมง ขณะที่ประเภททีมเวลารวม ทีมไทยอยู่อันดับ 11 จากทั้งหมด 18 ทีม
“วันนี้ สราวุฒิ ทำได้ดี ปั่นหนีมากับกลุ่มแรกจำนวน 9 คน ตั้งแต่ช่วง 10-20 กม.แรก จนยืดระยะห่างจากกลุ่มใหญ่มากสุดถึง 6 นาที แต่ช่วง IS2 สราวุฒิ บอกว่ามองไม่เห็นป้าย รวมทั้งนักปั่นทีมอื่น ๆ ด้วย เพราะป้ายบอกระยะทางหายไป คนที่ได้เจ้าความเร็วจุดที่ 2 จึงแทบไม่รู้ตัว ส่วน IS3 จุดสุดท้าย สราวุฒิ ตัดสินใจไม่สปรินต์แล้ว เพื่อเก็บแรงเอาไว้สปรินต์ช่วงเข้าเส้นชัย สำหรับในสเตจที่ 4 วันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) จากเมืองเจมเบอร์ ไปยังเมืองบันยูวังกี ระยะทาง 147.3 กม. เป็นเส้นทางขึ้นเขาตลอด ถือว่าเป็นช่วงที่โหดที่สุดของการแข่งขัน ซึ่งนักปั่นอีก 4 คน ได้แก่ ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์, พีระพล ชาวเชียงขวาง และ อาริยะ พูลสวัสดิ์ ล้วนแต่ปั่นขึ้นเขาได้ดีทุกคน น่าจะสู้กับนักปั่นนานาชาติได้สนุก” ร้อยตำรวจเอกอดิศักดิ์ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น