เตือนประชาชน จ.แม่ฮ่องสอน ในทุกพื้นที่ เตรียมพร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน จากฝนตกหนัก

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 นายทนงศักดิ์ นิรากรณ์ ผอ.ส่วนอุทกวิทยา ที่ 3 แม่ฮ่องสอน กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ทางส่วนอุทกวิทยา ที่ 3 ขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน ให้เตรียมพร้อม รับมือน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน จากฝนตกหนักในทุกพื้นที่ จากพายุโซนร้อนโพดุล และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จากอ่าวเบงกอล ที่พาดผ่านจากประเทศเมียนมา เข้ามาถึง จ.แม่ฮ่องสอน โดยให้ประชาชนคอยติดตามการรายงานผลปริมาณน้ำฝน จากทางส่วนราชการอย่างใกล้ชิด

โดยก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 62 ที่ผ่านมา เวลา 21.50 น. ห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม สำนักวิจัยพัฒนาและอุทกวิทยา (สวพ.) กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ตรวจพบกลุ่มฝนขนาดใหญ่ บริเวณบ้านแม่สุริน บ้านแม่สะเป่เหนือ บ้านขุนยวม บ้านหลวง และบ้านต่อแพ พื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พบว่ามีฝนตกต่อเนื่องมากกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว ล่าสุดเมื่อเช้านี้ ได้มีรายงานจากในพื้นที่ว่า ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

อย่างไรก็ตาม ประชาชนในทุกพื้นที่ ที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มติดลำห้วย ต้องเฝ้าระวังการเกิดน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน และควรย้ายสิ่งของมีค่าไว้ในที่สูง พ้นจากน้ำท่วมโดยเร็ว เนื่องจากปริมาณฝนสะสมของจ.แม่ฮ่องสอน ได้มีมากและต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ การเกิดฝนตกไม่นาน อาจจะส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากขึ้นมาได้

นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ องค์กรท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลและเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบเหตุอุทกภัยในเบื้องต้นอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งได้มีการประกาศเป็นเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.ปาย อ.ปางมะผ้า อ.เมือง และอ.สบเมย ซึ่งมีหมู่บ้านได้รับความเสียหาย 119 หมู่บ้าน 17 ตำบล และจะมีการประชุมกำหนดกรอบวงเงิน ในการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ประสบภัยต่อไป

การประกาศเตือนดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนพายุโซนร้อนโพดุล ส่งผลกระทบภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคม 2562 ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่ม ฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรงบางแห่ง ได้ไม่ทันข้ามวัน ซึ่งได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ในพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า อ.เมือง อ.ขุนยวม อ.แม่ลาน้อย อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนโพดุล และสถานการณ์อาจจะรุนแรงมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากด้านทิศตะวันตกของประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลลมมรสุมจากอ่าวเบงกอล ที่ผ่านประเทศเมียนมา เข้ามาถึงด้านทิศตะวันตกของ จ.แม่ฮ่องสอน