ตร.บ้านดู่ไล่จับตีนแมวลักทรัพย์ พบประวัติก่อเหตุโชกโชน เข้า-ออกคุกเป็นว่าเล่น

เวลา 09.00 น.วันที่ 31 ส.ค. 62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านดู่ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สิทธิชัย ไกรแสง ผกก.สภ.บ้านดู่ นำโดย พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ไชยวรรณ์ รรท.รอง ผกก.สส.สภ.บ้านดู่, พ.ต.ท.รัชพล สะสม สว.สส.สภ.บ้านดู่, ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ พยาสม รอง สว.สส.สภ.บ้านดู่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านกิ่วทัพยั้ง สภ.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้ร่วมกันจับกุมนายพุฒิสรรค์ สุขทวี หรือตั้ม อายุ 39 ปี ชาว ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คหลายรายการ

โดยการจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจาก สภ.เมืองขอนแก่น ว่ามีคนร้ายที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์ตามสถานศึกษาได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย จึงได้ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 31 ส.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านดู่ ได้ออกตรวจบริเวณหอพักนักศึกษาย่านมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้พบผู้ต้องหาเดินถือกระเป๋าสะพายสีดำออกมาจาก บ้านเลขที่ 593/6 หมู่ 9 บ้านศรีป่าซาง ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย ท่าทางมีพิรุธจากนั้นได้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ณข 1461 กทม. ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับขี่รถตาม และพยายามเรียกให้หยุดแต่รถคันดังกล่าวได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ไปตามถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปยัง อ.แม่สาย จึงได้ประสานไปยังด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ให้ทำการสกัดจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขับรถตามไปติดๆ เมื่อถึงด่านตรวจจึสามารถสกัดเอาไว้ได้

จากการตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ Lenovo สีดำ อยู่ในกระเป๋าสะพายหลัง และพบทะเบียนรถหมายเลข 7 กน 4406 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น ซุกซ่อนอยู่ภายในกระโปรงท้าย เบื้องต้นถามนายพุฒิสรรค์ รับสารภาพว่าโน๊ตบุ๊คดังกล่าวได้ขโมยมา ส่วนทะเบียน 7 กน 4406 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่นเป็นทะเบียนตัวจริงของรถยนต์ที่ใช้ ซึ่งได้ถอดไว้และใช้ทะเบียนหมายเลข ณข 1461 กรุงเทพมหานคร ซึ่งซื้อมาในราคา 200 บาท มาสวมใส่แทน เพื่อใช้ในการตระเวนลักทรัพย์ หลังจากทำการจับกุมแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขยายผลตรวจค้นห้องพักพบของกลางอีกจำนวนมาก

จากการตรวจสอประวัติ พบว่า พุฒิสรรค์ เคยถูกจับกุมในพื้นที่ สภ.บ้านดู่ ในคดีลักทรัพย์เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เพิ่งได้รับการอภัยโทษ โดยครั้งนี้กลับมาก่อเหตุในพื้นท่ สภ.บ้านดู่อีกครั้ง โดยเน้นไปตามแหล่งที่มีหอพักนักศึกษา ใกล้สถานศึกษา คอยสอดส่องและแอบเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยของ เช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อไปขายต่อ นอกจากนี้ยังพบว่าก่อเหตุในหลายพื้นที่ ทั้งภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 20 ราย ที่ได้เข้ามาแจ้งความเอาไว้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับผู้เสียหายให้มาชี้ตัวและรับของคืน โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น