นายก อบจ.เชียงใหม่ เผยพร้อมทุ่มงบสร้างหอคอยกรองอากาศแก้ปัญหาหมอกควัน

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 28 ส.ค. 62 ถึง 1 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา ได้ร่วมคณะกับนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเยี่ยมชม ศึกษาดูงานและหารือเกี่ยวกับองค์ความรู้ และเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ที่ Shanghai Institute of Ceramics Chinise Academy of Sciences นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของสถานกงสุลใหญ่สาธารณะประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ซึ่งพบว่าที่สถาบันดังกล่าวได้วิจัยพัฒนาวัสดุใหม่เป็นผลสำเร็จสำหรับการนำไปใช้ในการบำบัดคุณภาพอากาศได้

โดยสารดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติในการที่จะแยกสิ่งเจือปนทั้งฝุ่นละออง สารระเหย และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเมื่อนำไปใช้เคลือบกระจก และอาศัยแสงอาทิตย์ในการแยกสลายสารปนเปื้อนหรือสิ่งสกปรกด้วยตัวเอง ด้วยเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Photocatalysis โดยทำปฏิกิริยากับฝุ่นที่เกาะอยู่บนกระจกทำให้เกิดน้ำแล้วหลุดหล่นลงสู่ด้านล่าง จึงสามารถนำไปเป็นวัสดุส่วนหนึ่งของระบบกรองอากาศและพัฒนาขึ้นเป็นหอคอยกรองอากาศที่ปัจจุบันทางสถาบันสามารถพัฒนาต้นแบบหอคอยกรองอากาศ รุ่นที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จแล้ว
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากการเยี่ยมชมและดูงานดังกล่าว เห็นว่าเทคโนโลยีและองค์ความรู้ดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์ในการนำมาใช้ช่วยแก้ไขปัญหาหมอกควันและค่าฝุ่นละออง PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งจากการหาปรึกษาหารือเบื้องต้นกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และคณบดีวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มองว่ามีความเป็นไปได้และเตรียมที่จะเชิญทีมนักวิจัยจากสถาบันดังกล่าวจากประเทศจีนเยือนเชียงใหม่ เพื่อลงพื้นที่จริงเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ออกแบบหอคอยกรองอากาศที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาของจังหวัดเชียงใหม่ โดยร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ทั้งนี้ต้นแบบหอคอยกรองอากาศรุ่นที่ 2 ที่ทางสถาบันวิจัยของจีนออกแบบนั้น มีขนาดฐานกว้างยาว 20 เมตร และสูง 16 เมตร สามารถกรองอากาศได้ครอบคลุมรัศมีพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร โดยการทดสอบในห้องปฏิบัติการสามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้กว่าร้อยละ 90 ในเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งทางจีนยังไม่เคยก่อสร้างใช้งานจริงเช่นกัน แต่มีการคำนวณต้นทุนก่อสร้างหอคอย 1 หลัง พร้อมอุปกรณ์อยู่ที่ประมาณหลังละ 25 ล้านบาท ขณะที่การออกแบบใช้งานที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น อาจจะมีการปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และลดต้นทุนลงได้ โดยเบื้องต้นอาจจะมีการพัฒนาออกแบบและก่อสร้างเครื่องต้นแบบทดลองติดตั้งในพื้นที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ และวัดผลการใช้งาน ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการสร้างหอกรองอากาศดังกล่าวนั้น เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นหรือเฉพาะหน้าเท่านั้น โดยที่ยังมีความจำเป็นต้องมีแผนการแก้ไขปัญหาทั้งระยะกลางและระยะยาวด้วย
ซึ่ง อบจ.มีการกำหนดแผนไว้อยู่แล้วเช่นกันและได้เริ่มดำเนินงานไปแล้ว ซึ่งระยะกลาง ได้แก่ การสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นให้ได้ปีละ 10,000 ฝาย ในพื้นที่เสี่ยงที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ขณะที่ระยะยาวเป็นการรณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกและการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชที่ไม่การเผาในกระบวนการผลิต รวมทั้งการปลูกป่าทดแทน ซึ่งยอมรับว่ากว่าจะเห็นผลชัดเจนอาจจะต้องใช้เวลานานนับสิบปี แต่จำเป็นต้องทำโดยเร็วและได้เริ่มดำเนินการแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า หลักการทำงานของหอคอยกรองอากาศ รุ่นที่ 2 ที่นักวิจัย Shanghai Institute of Ceramics Chinise Academy of Sciences ได้พัฒนาขึ้นนั้น ภายในหอคอยที่มีรูปร่างเหมือนปล่องจะทำการติดตั้งกระจกที่เคลือบด้วยวัสดุพิเศษที่คิดค้นขึ้นมาได้ บริเวณฐานจะเป็นน้ำและมีช่องระบายให้อากาศสามารถลอดเข้าไปในตัวปล่องได้ วิธีการทำงาน อาศัยหลักการที่ว่าอากาศร้อนจะลอยขึ้นสู่ด้านบน ด้วยการอาศัย แสงอาทิตย์ทำให้กระจกมีความร้อน และดูดอากาศจากด้านล่างผ่านปล่องขึ้นมา แล้วดักจับฝุ่นละออง ที่สุดท้ายจะหลุดและสลายตัวลงไปในน้ำที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งเบื้องต้นประมาณต้นทุนเฉพาะการก่อสร้างหอคอยกรองอากาศ รุ่นที่ 2 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์พร้อมใช้งาน อยู่ที่ราว 5 ล้านหยวน (ประมาณ25ล้านบาท) ต่อ1ตัว ซึ่งข้อดีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของหอคอยนี้คือไม่ต้องสิ้นเปลืองต้นทุนหรือจัดงบประมาณในการบำรุงรักษา

ร่วมแสดงความคิดเห็น