ครอบครัวหนุ่มบริจาคหัวใจ ภูมิใจที่ไดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้านเพื่อนฝูงและชาวบ้านแห่ร่วมงานและให้กำลังใจครอบครัว

ชาวบ้านบ้านปางแหว หมู่ 3 และเพื่อนฝูงญาติสนิทต่างพากันเดินทางมาร่วมงานศพและให้กำลังใจครอบครัวของนายณัฐพล มัฆวาล อายุ 25 ปี หรือน้องเจมส์ หนุ่มเชียงใหม่ ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์ บ้านปางแหว โดยมี นางสาวเตือนใจ มูลยังกาย อายุ 22 ปี ภรรยาและน้องท๊อปลูกชายวัยสามขวบ คอยต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน

นายณัฐพล ซึ่งอยู่ในวัยเบญจเพสนั้น ก่อนหน้านี้เขาได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ชนบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ถนนสายพร้าว-เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา แต่นายณัฐพลได้สั่งเสียกับนางสาวเตือนใจ มูลยังกาย อายุ 22 ปี ภรรยา ไว้ให้บริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาลโดยที่ไม่ได้มีการทำเรื่องมาก่อน กระทั่งประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตเธอจึงได้แจ้งความประสงค์กับทางโรงพยาบาลก่อนที่โรงพยาบาลนครพิงค์จะประสานไปยัง กระทรวงสาธารณสุข
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (8 ก.ย. 2562) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อวัยวะที่บริจาค ประกอบด้วย หัวใจ 1 ดวง ไต 1 ข้าง และดวงตา 1 คู่ โดยการผ่าตัดหัวใจ ทางทีมแพทย์ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะจะต้องส่งต่อและปลูกถ่ายอวัยวะทันที ซึ่งทีมงานแพทย์ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันตามเวลาที่กำหนด นอกจากนั้นทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยังรับไตอีก 1 ข้าง ด้วย ซึ่งการบริจาคหัวใจ และอวัยวะของผู้ป่วยรายนี้

นางสาวเตือนใจ ภรรยา ผู้ตาย เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจในตัวสามีมากที่ถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้วแต่เขาก็ยังคิดถึงคนอื่น ซึ่งเขาบอกว่าอวัยวะในร่างกายของเขานั้นจะสามารถไปต่อลมหายใจของผู้ป่วยคนอื่นได้ ซึ่งทางทีมแพทย์ก็ได้ระบุว่า อวัยวะของสามีเธอนั้นที่บริจาค ทั้งหัวใจ ดวงตาและไต นั้นสามารถช่วยได้ถึง3 ชีวิตที่กำลังรอการช่วยเหลืออยู่
ด้านนายธนโชติ มัฆวาล อายุ 46 ปี พ่อของ นายณัฐพล ซึ่งเป็นต้นแบบที่ลูกเอาแบบอย่างเขาบอกว่า ทางตัวเขาเองได้มีการอุทิศดวงตาและบริจาคร่างกายให้กับสภากาชาดไทยเมื่อปี 2558 ซึ่งตนก็จะเล่าให้ลูกชายฟังตลอดว่า ที่บริจาคร่างกายไปนั้นเพราะต้องการให้อีกหลายชีวิตที่ป่วย บางคนเขามีภาระมีครอบครัวดูแลซึ่งร่างกายเรา เมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็จะถูกเผาแต่เมื่อเราบริจาคอวัยวะกับร่างกายนั้นเหมือนเป็นการทำบุญได้ต่อชีวิตกับใครได้อีกหลายคน ทำให้ลูกชายตนจำมาตลอดกระทั่งเขาเสียชีวิตและได้ดำเนินรอยตามพ่อ ดังนั้นจึงรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันก็ต้องการฝากไปยังประชาชนคนไทยทุกคนว่าการบริจาคดวงตาและร่างกายนั้นไม่น่ากลัวซึ่งถ้าหากท่านบริจาคก็จะสามารถต่อชีวิตใครได้อีกจำนวนมาก ขณะที่บรรยากาศภายในงานศพของนายณัฐพล นั้นวันนี้ก็มีชาวบ้านและเพื่อนฝูงพากันมาช่วยงาน ช่วยกันจัดดอกไม้ โดยมีพวงหรีดจากกระทรวงสาธารณสุข จากสภากาชาด และจากนายอนุทิน ชาญวีระกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ส่งมาไว้อาลัยให้กับน้องเจมส์ นอกจากนี้ทางสภากาชาดไทยยังได้มอบประกาศนียบัตรให้กับน้องเจมส์ด้วยซึ่งทางครอบครัวได้นำมาวางไว้บนหีบ เพื่อเป็นเกียรติผู้ตายและครอบครัวด้วย
โดยศพของน้องเจมส์หนุ่มบริจาคหัวใจนั้นคือนี้จะมีพิธีสวดอภิธรรมเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่พรุ่งนี้ทางครอบครัว จะเคลื่อนศพไปฌาปนกิจที่สุสานบ้านปางแหวหมู่ 3 ในช่วงบ่าย ของวันพรุ่งนี้
สำหรับการปลูกถ่ายหัวใจครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นรายที่ 26 และยังมีผู้ป่วยที่รอการผ่าตัดถ่ายหัวใจอีกมากถึง 6,000 คน

ร่วมแสดงความคิดเห็น