แม่ฮ่องสอน พร้อมเปิดถนนการค้าชายแดน หลัง ผวจ.นำคณะที่เกี่ยวข้อง เยือนเมียนมา และจัดแสดงสินค้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 3-6 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน นำผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการค้าจาก จ.แม่ฮ่องสอน เดินทางไปหารือเจรจาการค้า Business Matching และแสดงสินค้าเด่นของ จ.แม่ฮ่องสอน กับผู้ประกอบการค้า เมืองลอยก่อ รัฐคะยา โดยมี U L Phaung Sho (นายพองโฉ่) มุขมนตรีรัฐคะยา ประเทศเมียนมา พร้อมคณะให้การต้อนรับ ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลแสดงสินค้าและเยี่ยมชมตลาดสดเมืองลอยก่อ เพื่อสร้างความคุ้นเคย อันจะเป็นประโยชน์ในเชิงธุรกิจการค้าในอนาคต และการเปิดเส้นทางการค้าชายแดน ระหว่าง จ.แม่ฮ่องสอน กับรัฐคะยา ณ ศาลาว่าการเมืองลอยก่อ รัฐคะยา ประเทศเมียนมา จากนั้นคณะได้เดินทางไปพบปะแสดงสินค้าเด่น จ.แม่ฮ่องสอน ณ เมืองตองยี รัฐฉาน โดยมี นายอองซาน วิน ประธานหอการค้ารัฐฉานตอนใต้ พร้อมผู้ประกอบการมาให้การต้อนรับ
นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในการนำคณะส่วนราชการ ภาครัฐเอกชน ผู้ประกอบการมาประชุมหารือเจรจาการค้า ที่การแสดงสินค้าระหว่างผู้ประกอบการค้าไทยกับเมียนมา ทั้งในเมืองลอยก่อ รัฐคะยา และเมืองตองยี รัฐฉาน ได้รับการต้อนรับจากมุขมนตรีรัฐคะยา และความสนใจจากผู้ประกอบการทั้งสองเมืองเป็นอย่างดี ประเด็นที่มาพูดคุยคือ เรื่องการเปิดเส้นทางการค้าชายแดนที่ช่องทางห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ฝ่ายไทยเรากำลังก่อสร้างเป็นถนนดินลูกรังบดอัดแน่น และคอนกรีตบางส่วนที่ลาดชัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นเดือนกันยายน 62 นี้ และได้จัดตั้งงบประมาณที่จะเทคอนกรีตตลอดเส้นระยะทาง 9 กม. ตั้งแต่บ้านห้วยต้นนุ่นถึงเขตชายแดนไทยในปีต่อไป อีก 30 ล้านบาท
ส่วนเส้นทางฝั่งประเทศเมียนมา ตั้งแต่ อ.แม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อ ถึง ชายแดนไทยที่ช่องทางห้วยต้นนุ่น หรือ BP 13 ได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายก็จะกำหนดวันเปิดเส้นทางประมาณปลายเดือน พ.ย. ถึง ธ.ค. 62 นี้ นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดคุยประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การอนุญาตให้บุคคลเข้า-ออก ระหว่างประเทศผ่านจุดผ่อนปรนการค้า เพื่อถือปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และได้หารือร่วมกันที่จะเปิดตลาดการค้าชายแดนสองแผ่นดิน เดือนละ 1 ครั้ง โดยในวันที่ 26 ก.ย.62 จะเปิดให้ผู้ประกอบการพ่อค้าประชาชนไทยและเมียนมา นำสินค้ามาวางจำหน่าย ในพื้นที่ อ.ขุนยวม และในเดือนต่อไป พ่อค้าฝั่งไทยก็จะนำสินค้าไปวางจำหน่ายที่ อ.แม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อ ประเทศเมียนมา
ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า สำหรับรัฐคะยา เป็นอีกรัฐหนึ่งที่อยู่ติดชายแดนไทย ตรงข้าม อ.ขุนยวม มีพื้นที่ 11,731.5 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 280,000 คน ถือว่าเป็นประตูสู่การค้าไทย-เมียนมา และรัฐคะยา มีแหล่งท่องเที่ยวมากพอสมควร สำหรับการค้าชายแดนจุดผ่อนปรน จ.แม่ฮ่องสอน ปี 62 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฏาคม ส่งออก 383 ล้านบาท และนำเข้า 293 ล้านบาท มูลค่ารวมกว่า 676 ล้านบาท ประเภทสินค้าที่มีการส่งออก ได้แก่ ผงชูรส, บุหรี่ต่างประเทศ, กาแฟสำเร็จรูป, เบียร์กระป๋อง, รองเท้าแตะฟองน้ำ, อุปกรณ์การเกษตร และสปายไวน์ ซึ่งผงชูรส ส่งออกมากที่สุด ร้อยละ 55 สินค้านำเข้า 5 อันดับ ใน เดือนกรกฎาคม 2562 ได้แก่ โค-กระบือมีชีวิต จำนวน 32.76 ล้านบาท, สินค้าอุปโภคบริโภค และหอมหัวใหญ่

ซึ่งถ้าเราสร้างถนนที่ช่องทางห้วยต้นนุ่นแล้วเสร็จ เชื่อว่าจะมีการค้าขายนำเข้าและส่งออกเพิ่มขึ้น จะสามารถยกระดับจากจุดผ่อนปรน ให้เป็นด่านการค้าชายแดนถาวรในอนาคตที่จะถึงนี้ ขณะนี้เราได้เร่งดำเนินการก่อสร้าง จะได้ทำการเปิดเส้นทางการค้าระหว่าง จ.แม่ฮ่องสอน กับเมืองลอยก่อ รัฐคะยา สาธารณรัฐแห่งชาติเมียนมา ส่วนเมืองตองจี ถือเป็นเมืองหลักของรัฐฉานในประเทศเมียนมา อากาศค่อนข้างเย็น มีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ ทะเลสาบอินเล ตองจีจึงเป็นอีกเมืองหนึ่ง ที่เราได้มาพบปะเยี่ยมเยือน เพื่อขยายตลาดการค้าการท่องเที่ยวของ จ.แม่ฮ่องสอนในอนาคต จากการหารือในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้มากขึ้นเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมาย ยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน ช่องทางห้วยต้นนุ่น หรือ PB 13 ให้เป็นด่านชายแดนถาวร ในอนาคตให้ได้ ต่อจากนี้ไปทั้งสองฝ่ายจะต้องเร่งดำเนินการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต

ร่วมแสดงความคิดเห็น