บิ๊กสมยศ เสียวสังเวียน ดวลแข้ง ยู 23 เอเซียวืด มีสนามสำรองแค่ 1สนาม

บิ๊ก สมาคมฟุตบอล สมยศ’เผยมีสนามสำรองจัดยู23ที่เดียว เสียวสังเวียนอื่นวืดอีก “สมยศ” เผย “กกท.” ส่งหนังสือแจ้งแล้ว “สนามเชียงใหม่” ปรับไม่ทัน ยู-23 งัดแผนสำรอง โยกใช้ “บุรีรัมย์” ปรับอีกนิดเดียว แต่ยังต้องรอลุ้นอีก 2 สนามยืนยันความพร้อมก่อนเอเอฟซีมาตรวจ ในอีก 2 สัปดาห์หน้า ยอมรับกังวล กลัวสิทธิเจ้าภาพปลิว ถ้ามีแห่งไหนถอนสมออีก ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาที่ไหนแทน

ตามที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020 คัดตัวแทนทวีปไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 เบื้องต้นวาง 4 สังเวียนแข่งขัน คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามกีฬาภายใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, สนามสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ และ สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา อย่างไรก็ตาม

ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ระบุว่า สนามสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กกท. จะปรับปรุงไม่ทัน ไม่สามารถใช้จัดแข่งขันได้  โดยสนามแห่งนี้ ปิดใช้งานมาแล้วราว 2 เดือน และทีมเชียงใหม่ เอฟซี ในไทยลีก ต้องโยกสังเวียนเหย้าไปเล่นที่ สิงห์ สเตเดียม จ.เชียงราย

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ว่า สมาคมได้รับหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าวจาก กกท. ในลงวันที่ 10 ก.ย. ก่อนหน้านี้ สมาคมฯ มีหนังสือไปเมื่อ 4 ก.ย. สอบถามผู้ดูแลแต่ละสนามถึงความคืบหน้าในการปรับปรุง ก่อนที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) จะมาตรวจ ซึ่ง กกท.ก็ตอบในส่วนของสนามสมโภช ฯ ว่า มีปัญหาเรื่องระยะเวลาจัดซื้อจัดจ้าง อาจปรับไม่ทัน ทำให้ต้องหาสนามใหม่

ส่วนสนามราชมังคลากีฬาสถาน ยังไม่มีการตอบมา รวมทั้ง ติณสูลานนท์ ที่มีหนังสือสอบถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ก็ยังไม่ตอบเช่นกัน ส่วน สนามในม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สมาคมฯ เข้าไปช่วยดูแลอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้เอเอฟซี จะมาตรวจช่วงวันที่ 20-24 ก.ย.นี้แล้ว

ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า สำหรับสนามที่จะมารับหน้าเสื่อแทนสนามสมโภช 700 ปี น่าจะเป็น “ช้างอารีน่า” จ.บุรีรัมย์ ที่มีความพร้อม

เพิ่มเติมเพียงห้องแต่งตัว ซึ่งทางสนามก็พร้อมจะปรับทันที ส่วนสนามอื่นๆ ไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา ทางเจ้าหน้าที่ เอเอฟซี บอกว่าไกลจากสนามบิน และที่พัก กับสนามซ้อม ไม่พร้อม หรือ ลีโอ สเตเดียม อัฒจันทร์ไม่ครบ เช่นเดียวกับ เอสซีจี สเตเดียม ที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ของเอเอฟซี

“สนามต่างๆ สมาคมฯ ไม่ได้เลือก แต่เป็นเอเอฟซี ที่มาดู และให้ข้อมูลว่าแห่งไหนจะใช้ได้บ้าง โดยเรามีแผนสำรองกรณีที่มีสนามที่ปรับไม่ทัน เตรียมสนามที่บุรีรัมย์ไว้ ก็คาดว่าจะใช้แทนสนามที่เชียงใหม่ แต่หากยังมีสนามอื่นที่เราวางไว้เบื้องต้นแล้วไม่สามารถจัดได้อีก ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้สนามไหนแทน ยอมรับว่ากังวล เพราะหากไม่มีสนามที่พร้อม ก็ต้องโยกสิทธิเจ้าภาพไปชาติอื่น” บิ๊กอ๊อด กล่าว