ชาวบ้านวังหลวงตะลึง พบแสงพวยพุ่งเป็นรูปหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำจืด จากพระรูปปั้นดินเหนียวในอุโบสถ

ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากจ.แพร่เกี่ยวกับความอัศจรรย์และการแสดงอิทธิฤทธิ์ของพระพุทธรูป ที่ขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 13 กันยายน 2562 ที่วัดวังหลวง หมู่ 1 ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ได้มีคณะศรัทธา และชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปทำบุญที่วัด เนื่องจากวันนี้เป็นวันพระและยังเป็นวันที่ชาวบ้านต.วังหลวง ได้จัดประเพณีทานสลากกภัตรด้วย จึงมีประชาชนจำนวนมาก โดยมีพระครูวิศาลพัฒนกุล เจ้าอาวาสวัดหลวงนำพระภิกษุสามเณร วัดวังหลวง ประกอบพิธีกรรมทางศานา
โดยนายณัฐกานต์ จันทนู กำนัน ต.วังหลวง นำคณะศรัทธาชาวบ้านมาร่วมพิธี ขณะที่ชาวบ้านได้ทำพิธีทางศาสนา ในพระอุโบสถของวัดนั้น ได้เกิดมีแสงประหลาดเกิดขึ้นที่เศียรของพระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระพุทธวิชัยประทานพรสันติสุข เป็นพระประธานในอุโบสถ ตนได้รีบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปไว้ ได้ 2 ภาพ ภาพนั้นก็เลือนหายไป ทำเอาคณะศรัทธาต่างฮืฮฮาาและสร้างความประหลาดใจและแปลกใจในการแสดงปาฎิหารย์หรือแสดงอิทธิฤทธิ์ของพระประธานในอุโบสถ เป็นอย่างยิ่ง
นายรัฐกานต์ จันทนู กำนันตำบลวังหลวง เผยว่า ตนขนลุกซู่เลยทีเดียว เมื่อมีปรากฏการณ์นี้ และเล่าว่าพระพุธวิชัยประทานพรสันติสุข พระพุทธรูปดินเหนียวองค์เดียวในโลก อายุ 148 ปี ย้ายมาจากวัดห่างบ้านวังหลวง ปั้นโดย พระกาวิชัยเจ้าอาวาสรูปแรก ชาวบ้านจึงขนานนามว่าพระพุทธวิชัย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่ตำบลวังหลวง เช้าวันนี้เวลา 07.00 น. ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรที่วัดวังหลวงเกิดปาฏิหารย์ตนได้ถ่ายภาพออกมา มีแสงเป็นรูปพระอยู่บนเกศของพระพุทธวิชัย ทำให้ชาวบ้านปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งแก่ชาวบ้านที่ไปร่วมบุญในวันสิบสองเป็ง ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 13 กันยายน 2562 หลังจากที่เสร็จพิธีแล้ว ชาวบ้านต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันมากจากเหตุการณ์ปาฏิหาริย์นี้ และมีชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังพากันฮือฮาพากันเก็งเป็นเลขหวย และหลายคนมาขอดูภาพถ่าย แต่ส่วนใหญ่ต่างก็เล่ากันว่าวันนี้เป็นวันพระใหญ่ 12 เป็ง วันที่ 13 เดือน 9 เหนือ เดือน 10 ใต้
พระครูวิศาลพัฒนกุล เจ้าอาวาสวัดวังหลวง เจริญพร ถึงประวัติหมู่บ้านวังหลวงว่า จากการสอบถามผู้เฒ่า ผู้แก่ บางท่าน กล่าวว่า การก่อตั้งชุมชนบ้านวังหลวงเริ่มแรกมีชาวบ้านหัวข่วง จังหวัดแพร่ ได้มาอาศัยพื้นที่ป่าบริเวณนี้ เพราะอุดมสมบูรณ์ ประจวบกับใกล้ภูเขา (ดอยม่อนนาบ่อ) และแพะเปียง สภาพพื้นที่ป่าเป็นป่าไม้สักทอง เต็ง รัง เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่า ชาวบ้านจึงล่าสัตว์เพื่อการยังชีพ และบริเวณใกล้ฝั่งแม่น้ำยมมีดินอุดมสมบูรณ์ น้ำเป็นทรัพยากรพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ในอดีตแม่น้ำยมเป็นแม่น้ำ ที่สะอาด และมีสัตว์น้ำนานาชนิดโดยเฉพาะบริเวณบ้านวังหลวงที่มีแม่น้ำยมไหลผ่าน บริเวณไหนที่มีน้ำลึก จะเรียกว่า “วัง” เช่น วังเครือบ้า วังอีตุ วังเคียน วังพระเจ้า (ที่วัดร้างตลาดสด) สันนิษฐานว่าเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน “วังหลวง”
นอกจากนี้หลักฐานพื้นฐานขององค์ความรู้ที่เกิดจากการสั่งสมมาจากบรรพบุรุษ ที่ได้ถ่ายทอดกันมาให้ ชนรุ่นหลังได้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิต อยู่โดยพึ่งพาธรรมชาติ มาใช้ประโยชน์เพื่อการยังชีพ เช่น เชื่อเรื่องผี ผีบ้าน ผีเรือน ผีเจ้าที่ การเลี้ยงผีเจ้าบ้าน เลี้ยงผีศาลเจ้าพ่อหลวง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน การสู่ขวัญ (การเอาขวัญ) พิธีบวชพระ (ดาปอย) ประเพณีถวายสลากภัตร (กินสลาก) เป็นต้น ความเชื่อเหล่านี้นำมาสู่ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ถือปฏิบัติตามบรรพบุรุษแสดงออกถึงภูมิปัญญาของชุมชน นอกจากนี้ศิลปกรรมพื้นบ้านที่แสดงปรากฏให้เห็นถึง ความสำเร็จของภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายอายุชน เช่น งานจักสาน ทอเครื่อง จักสานสำหรับดักสัตว์ กล่องข้าว ขันโตก เปลเด็ก เครื่องปั้นดินเผา งานแกะสลัก การฟ้อนรำ และเพลงพื้นบ้าน จ้อย ซอ ค่าว เป็นต้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น