รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เปิดแถลงข่าวกรณีสารเคมีรั่วไหล แจงเป็นสารเคมีทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์ ไม่เป็นอันตราย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.ย.62 ที่บริเวณห้องประชุมบุญสม มาร์ติน ชั้น 1 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผศ.นพ.วิชัย ชื่นจงกลกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมด้วย ผศ.นพ.ธนินนิตย์ สีรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ , ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และ อ.นพ.ดิเรก บรรณจักร์ หัวหน้าหน่วยโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีที่เมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00 น. วานนี้ (18 ก.ย.62) ได้เกิดเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล ที่ก่อนหน้านี้แจ้งว่าเป็นสาร sanacide – R8 บริเวณศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร ตึกศรีพัฒน์ โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ และหลังเกิดเหตุได้มีการเร่งดำเนินการปิดกั้นและเคลียร์พื้นที่ โดยหลังเกิดเหตุไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ทาง ผศ.นพ.วิชัย ชื่นจงกลกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่วานนี้ทางโรงพยาบาลได้มีรายงานเหตุสารเคมีรั่วไหล ซึ่งสารเคมีชนิดดังกล่าวคือ sanacide – R8 ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการทำความสะอาดและล้างเครื่องมือแพทย์ โดยสารดังกล่าวมีองค์ประกอบของสารที่มีลักษณะเดียวกับน้ำส้มสายชู และสารที่ใช้ในการทำความสะอาดบาดแผลทั่วไป แต่มีความเข้มข้นสูงกว่า โดยทางโรงพยาบาลนำมาใช้งานในการทำความสะอาดเครื่องกรอง และตัวกรองของเครื่องฟอกไต บรรจุเป็นแกลลอนเก็บไว้จำนวนพอใช้งานในห้องไตเทียม โดยในขณะบรรจุภาชนะเพื่อทำให้เจือจางข้อต่อสายมีการหลุดจึงเกิดการรั่วไหลของสารเคมีดังกล่าว ซึ่งสารเคมีชนิดนี้อาจส่งผลทำให้มีกลิ่นฉุนและระคายเคืองตา แต่ก็ไม่เป็นอันตรายมากนัก และหลังการเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและมีระบบจึงทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
ขณะที่ทางด้าน ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ เปิดเผยว่า เมื่อตรวจพบการรั่วไหลของสารดังกล่าวเจ้าหน้ที่ผู้เกี่ยวข้องที่ทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าในห้องไตเทียมมีสารนี้ที่เป็นสารเคมีสำคัญ และออกฤทธิ์สามารถระเหย และมีกลิ่นที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเบื้องต้นคือใส่ชุดป้องกันพื้นฐาน และตัดไฟเครื่องที่ทำงานภายในห้องไตเทียม พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่เพื่อให้การละเหยไม่กระจายในวงกว้าง และได้รายงานให้ทางผู้บริหารทราบทันที หลังจากนั้นได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทางการจัดการสารเคมีโดยการปิดกั้นพื้นที่ให้การละเหยของสารนี้อยู่ในวงจำกัด ในพื้นที่ที่คาดว่าน่าจะมีการระเหยของสารนี้เข้าไปได้มีการอพยพผู้เกี่ยวข้องและหยุดบริการชั่วคราวในพื้นที่ดังกล่าว แต่การเข้าพื้นที่ที่มีสารระเหย ซึ่งทางโรงพยาบาลยังไม่ทราบความเข้มข้นของสารที่ระเหย จึงได้ประสานงานขอความช่วยเหลือไปยัง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดเชียงใหม่ (ฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ) เพื่อเข้าพื้นที่และดำเนินการเก็บกู้สารเคมีดังกล่าว โดยทีมเผชิญเหตุจาก ปภ.เชียงใหม่ ร่วมกับทีมจากเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เข้าพื้นที่พร้อมชุดป้องกัน ระดับB ทำการเก็บกู้สารเคมีบรรจุในถุงปิดผนึก และบรรจุลงถังให้มิดชิดนำไปเก็บไว้ในพื้นที่เก็บสารเคมีของโรงพยาบาลและเข้าสู่ระบบการทำลายขยะสารเคมีของโรงพยาบาลต่อไป
อย่างไรก็ตามผู้ที่เข้ามารับบริการที่ห้องฉุกเฉินมีจำนวน 27 รายเป็นเจ้าหน้าที่ของคณะแพทยศาสตร์ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นพยาบาล แพทย์ และช่างเทคนิค มีอาการระคายเคืองที่ตา จมูก ได้รับการล้างทำความสะอาดตรวจสอบเยื่อบุตา และพบว่าไม่มีอาการรุนแรงและสามารถให้กลับบ้านได้ทั้งหมด

ร่วมแสดงความคิดเห็น