ด่วน!! ต้นไม้ใหญ่อายุกว่า 100 ปี ล้มทับรถสองสามีภรรยาขณะขับผ่าน ฝ่ายชายเสียชีวิต ส่วนฝ่ายหญิงอาการสาหัส

เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 19 ก.ย. 62 ร.ต.อ.กุศล มีกลิ่น รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุต้นไม้ขนนดใหญ่ล้มทับรถยนต์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบริเวณถนนใกล้กับวัดบ้านเหล่า ทางหลวงชนบท ชม.4024 ม.5 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งเมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อไฮลัก วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผย 2122 เชียงใหม่ ถูกต้นไม้ล้มทับพาดบริเวณห้องผู้โดยสาร สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน ขณะเดียวกันพบว่ามีร่างผู้ประสบเหตุ 2 ราย หมดสติติดอยู่ภายในรถ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จนกระทั่งผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงจึงสามารถนำตัวคนเจ็บเป็นหญิง ออกมาได้ 1 ราย ก่อนจะรีบปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนผู้ประสบเหตุอีก 1 รายนั้น เป็นชายทราบว่าเสียชีวิตภายในรถ ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำร่างออกมาได้ในเวลาต่อมา และทำการเคลื่อนย้ายศพออกจากที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ประสบเหตุทั้ง 2 ราย ฝ่ายชายที่เสียชีวิตคือ นายอุดม รักดี อายุ 61 ปี ที่อยู่ 913/2 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และฝ่ายหญิงที่บาดเจ็บคือ นางทองศร รักดี อายุ 56 ปี โดยก่อนเกิดเหตุดังกล่าวนั้นสองสามีภรรยาที่ประสบเหตุได้ขับรถมาตามเส้นทางบนถนนสายดังกล่าว จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ริมทาง จู่ๆ ต้นไม้ดังกล่าวได้เกิดล้มลงมาอย่างกระทันหัน เป็นช่วงที่รถของทั้งคู่กำลังจะขับผ่านแต่ยังไม่ทันพ้นต้นไม้ที่ล้มลงมาได้ทับรถอย่างจัง เป็นเหตุทำให้ฝ่ายชายซึ่งเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนฝ่ายหญิงที่นั่งมาเบาะด้านข้างอาการสาหัส และเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามจากการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทราบจากชาวบ้านว่าต้นไม้ต้นดังกล่าวที่ล้มลงมานั้นมีอายุกว่า 100 ปี ส่วนสาเหตุที่เกิดล้มลงมานั้น น่าจะเกิดจากการที่มีฝนตกหนักก่อนหน้านี้ทำให้ดินชุ่มน้ำและอุ้มน้ำไว้มาก ประกอบกับต้นไม้ถูกกัดเซาะโคนลากจึงทำให้เกิดล้มลงมาในที่สุด และเกิดเหตุดังกล่าวที่ไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปทำการชันสูตร และแจ้งทางญาติมารับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น