ส.บอลคลอดบทลงโทษ เชิ้ตดำ ที่โดนโทษแบน ไปทำหน้าที่ลีกต่ำกว่า

คนทำทีมฟุตบอล ทุกลีกปลื้มไหม เมื่อ ส.บอลคลอดบทลงโทษเชิ้ตดำแบบนี้ ทำผิดลดชั้นฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เตรียมออกมาตรการหลักสูตรติวและทดสอบมาตรฐานผู้ตัดสินที่โดนโทษ ก่อนที่จะกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง หลังพ้นโทษ ซึ่งจะต้องผ่านทั้งทฤษฎีและปฎิบัติ จึงจะสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ แต่จะต้องลงตัดสินในลีกที่ต่ำกว่า ก่อนที่จะกลับเป่าในลีกเดิม คาดจะใช้มาตรการนี้ในการแข่งขันปีหน้า ขณะเดียวกันเรื่องของการใช้วีเออาร์ เตรียมที่จะนำมาชี้ขาดเกมเอฟเอคัพ 2019 นัดชิงชนะเลิศ

การประชุมสภากรรมการ ครั้งที่ 9/2562 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.62 ณ ห้องประชุมชั้น 1 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกฯ เป็นปรธธาน โดยหลังการประชุมทางนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในประเด็นต่างๆของการประชุมว่า “วันนี้เป็นการประชุมสภากรรมการเป็นประจำทุกเดือน โดยเรื่องแรกเป็นการสรรหาบริษัทเข้ามาดูแลโครงการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตามข้อบังคับ เพื่อขอเงินสนับสนุนจากฟีฟ่า”

“เรื่องต่อมาคือเรื่องสมาคมฯ ขออนุมัติจากสภากรรมการ เพื่อปรับปรุงไฟส่องสว่าง สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อเตรียมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย”

“จากนั้นเป็นเรื่องเตรียมสรรหาบริษัทผู้ที่จะเข้ามาบริหารสิทธิประโยชน์ และสัญญาต่างๆ กับทางสมาคมฯ ที่จะหมดลงในปีพ.ศ.2563 ถึงแม้ว่าวาระของสภากรรมการชุดนี้ จะหมดลงในปีหน้าเช่นกัน แต่เรื่องนี้ตามหลักต้องสรรหาก่อน 1 ปีจะหมดสัญญา เพื่อให้ผู้ที่จะเข้ารับช่วงต่อ สามารถเตรียมตัวได้ทัน เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ 2-3 เดือนจะทำได้ และถ้าหากเหลือเวลาน้อย อาจจะทำให้ไม่มีผู้สนใจได้ เพราะเตรียมตัวไม่ทัน”

“นอกจากนี้ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินกำหนดหลักสูตรสำหรับผู้ตัดสินที่ถูกลงโทษแบน เพื่อให้ผู้ตัดสินเหล่านั้นได้ทบทวนความรู้ความสามารถ ทั้งภาคปฏิบัติ และทฤษฎี ก่อนที่จะกลับมาทำหน้าที่จริงอีกครั้ง ซึ่งจะมีคณะกรรมการคอยพิจารณา และต้องผ่านเกณฑ์การประเมินด้วย จึงจะส่งผู้ตัดสินเหล่านั้นลงไปตัดสินในลีกที่ต่ำกว่า เช่น หากผู้ตัดสินเคยเป่าในไทยลีก 1 ก็จะถูกลดลงไปเป่าในไทยลีก 2, 3 หรือ 4 เป็นต้น ก่อนที่จะได้กลับมาเป่าในลีกเดิม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในฤดูกาลหน้า”

นอกจากนี้นายกสมาคมฯ ยังกล่าวถึงการใช้ วีเออาร์อีกด้วยว่า “ตอนนี้ผู้ตัดสินของเราผ่านการอบรมจาก IFAB (International Football Association Board) เรียบร้อยแล้ว แต่การใช้ วีเออาร์ ทุกด้านต้องมีความพร้อม หากไม่มีการคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลง เราจะใช้ได้ในฟุตบอล เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2019 ที่สนามกีฬากองทัพบก”