หลายหน่วยงานในจ.ลำปาง ร่วมประกอบพิธีบวงสรวง เนื่องในวันคล้ายวันพิราลัย ของพลตรีมหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์ วงษ์มานิต

คณะครู อาจารย์ และนักเรียน โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จัดพิธีบวงสรวงและวางพวงมาลา ถวายสักการะแด่ดวงพระวิญญาณ พลตรีมหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต อดีตเจ้าผู้ครองนครลำปาง และผู้ก่อตั้งโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เนื่องในวันคล้ายวันพิราลัย 5 ตุลาคม ซึ่งได้มีการประกอบพิธีขึ้น ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ พลตรีมหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง
โดยมีนายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย เจ้านายฝ่ายเหนือกลุ่มลูกหลานเจ้าเจ็ดตน และคณะผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวลำปาง ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวง วางพวงมาลาต่อเบื้องหน้าพระอนุสาวรีย์ พลตรีมหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เพื่อเป็นการสักการะดวงพระวิญญาณ และน้อมรำลึกถึงพระกรณียกิจ คุณงามความดี ตลอดจนเพื่อแสดงออก
ซึ่งความกตัญญูกตเวทิตาต่อ พลตรีมหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต อดีตเจ้าผู้ครองนครลำปาง ผู้ซึ่งได้สร้างคุณูปการต่อนครลำปางและประเทศชาติไว้เป็นอเนกประการ พลตรีมหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต มีพระนามเดิมว่า เจ้าบุญทวงศ์ ณ ลำปาง ทรงราชสมภพ
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2400 ทรงเป็นราชโอรสในเจ้าหลวงนรนันทไชยชวลิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 12 กับแม่เจ้าฟองแก้วราชเทวี เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ได้เข้ารับราชการประจำกองมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2428 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระมหากรุณาธิคุณมาโดยลำดับ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่13 เมื่อปี พ.ศ. 2440 และถึงแก่พิราลัย
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2465 สิริพระชนมายุได้ 65 พรรษา โดยตลอดรัชสมัย เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ได้ทรงดำรงพระองค์ไว้ ซึ่งความมั่นคงสุจริตและความจงรักภักดีต่อพระบรมราชวงศ์จักรี พระองค์ได้ทรงพัฒนานครลำปาง และเมืองบริวารในด้านต่าง ๆ ให้ทันกับการพัฒนาในส่วนกลาง ได้ทรงประทานที่ดิน และสละทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดสร้างถาวรวัตถุในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และการก่อตั้งสร้างสถานศึกษา สถานที่ราชการ ตลอดจนทรงมีราชดำริ ให้มีการก่อสร้างปรับปรุงถนนสายต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงนครลำปางกับเมืองบริวารใกล้เคียง ซึ่งได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง สร้างความผาสุกให้แก่นครลำปางและประชาชนชาวลำปาง มาจวบจนถึงปัจจุบัน.

ร่วมแสดงความคิดเห็น