เกิดเหตุสลดใจ 2 เซียนดำน้ำยิงปลา หายออกจากบ้าน ญาติระดมกำลังช่วยตามหา สุดท้ายพบเป็นศพลอยลำน้ำแม่จาง

เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 15 ต.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา ได้รับแจ้งว่าพบผู้เสียชีวิตจมน้ำตายอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำ บ้านวังพร้าวพัฒนา หมู่ 7 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง จำนวน 2 ศพ คาดว่าเป็นบุคคลที่สูญหายและญาติประกาศตามหาในท้องที่ของ สภ.เขลางค์นคร หลังรับแจ้งจึงประสาน ร.ต.อ.สิรวิทญ์ ไชวรรณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.เกาะคา และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเกาะคา ร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์จอดไว้อยู่บริเวณฝายน้ำล้นบ้านวังพร้าว จำนวน 2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าดรีม สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กษค 115 ลำปาง ซึ่งพบว่าเป็นของบุคคลสูญหายจริง คือ นายสัญญา สอนชื่อ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 238 บ้านหมอสม ม.2 ต.ปงแสนทอง และนายศักดิ์ติพงษ์ ใจแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246/1 บ้านหมอสม ม.2 ต.ปงแสนทอง ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 62 โดยญาติได้ประกาศตามหาทางโซเชียล และได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เขลางค์นคร
ภายในอ่างเก็บน้ำ พบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน อยู่ในสภาพขึ้นอืดและเน่าเละ โดยทั้งสองมีแกลลอนน้ำมันติดอยู่ข้างตัว ศพแรกลอยใกล้ริมตลิ่งอีกฝั่งน้ำ และอีก 1 ศพ ลอยขึ้นอืดค้างที่ตลิ่งห่างกันไม่ถึง 5 เมตร ทางร้อยเวรสอบสวน จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร และญาติได้มาตรวจสอบ และยืนยันว่าเป็นผู้สูญหายทั้งสองคนจริง
โดยก่อนหน้านี้ ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พ่อน้อง ชูใจ ด.ญ.ธัญเทพ” ได้ขอความช่วยเหลือให้ตามหาญาติ 2 คน คือนายสัญญา สอนชื่อ อายุ 41 ปี และนายศักดิ์ติพงษ์ ใจแก้ว อายุ 27 ปี ได้หายไปพร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นชาวบ้านหมอสม หมู่ 2 ต.ปงแสนทอง อ.เมืองลำปาง มีอาชีพดำน้ำยิงปลา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านทั้งสอง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา แล้วยังไม่กลับบ้านไม่สามารถติดต่อได้ จึงขอความช่วยเหลือทางโซเชียลช่วยกันตามหา และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์คนหายที่ สภ.เขลางค์นคร นอกจากนั้นทางญาติได้ออกตามหาตามแหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำ ฝายน้ำล้นต่างที่คาดว่าทั้ง 2 คนจะไปดำน้ำ เพื่อยิงปลา จนผ่านมาจน 5 วัน กระทั่งวันที่ 15 ต.ค. 62 เพื่อนๆ อาชีพหาปลาด้วยกันได้ออกตามหาและพบรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันจอดอยู่ จนมาพบศพจมน้ำดังกล่าว
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ ทางญาติแจ้งว่า นายศักดิ์ติพงษ์ อายุ 27 ปี มีโรคประจำตัวคือลมชัก สันนิษฐานได้ว่าทั้งสองคนจะออกไปจับปลาด้วยวิธีการดำน้ำ จะสามารถจับปลาได้ตัวใหญ่ โดยผูกแกลลอนไว้ข้างตัวเพื่อช่วยพยุงไม่ให้จม แต่นายศักดิ์ติพงษ์ เกิดอาการโรคลมชักกำเริบขณะลอยตัวในน้ำ นายสัญญาน่าจะพยายามเข้าไปช่วยเหลือน้อง ด้วยการดึงตัวเข้าฝั่ง แต่สภาพพื้นที่ดังกล่าวมีจอกแหนและวัชพืช ทำให้เคลื่อนตัวช้า นายสัญญาจึง ถอดแกลอน และอุปกรณ์หาปลาทิ้งในน้ำ และพยายามดึงร่างน้องชายเข้าฝั่งแต่หมดแรงทั้งคู่ และไม่มีใครเห็น จึงเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น