ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน

เวลา 15.09 น. วันที่ 15 ต.ค.62 ที่วัดพระธาตุผาเงา ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตในต่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะตัวแทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 2 โดยมีพระมหาบุนมา สิมมาพรหม รองประธานสงฆ์แห่ง สปป.ลาว ภัททันตะ จันทิมาวิวังสะ กรรมการเถรสมาคมและเลขาธิการมหาเถรสมาคมแห่งสหภาพเมียนมา สมเด็จพระอุดมวงศา มงรา เลขาธิการเถรสมาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พระคุณเจ้า ติช เทียน ตั้ม รองประธานสงฆ์แห่งประเทศเวียดนาม ท่านเขียว กันนะฤทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสาร แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา , ดร.คิน ฉ่วย ประธานสมาพันธ์พุทธเถรวาทแห่งสหภาพเมียนมา ท่านจันทรวงศ์ แสง อมาตย์มนตรี รองประธานมูลนิธิแนวลาวสร้างชาติแห่ง สปป.ลาว นายวินัย วีระภุชงค์ ประธานมูลนิธิวีระภุชงค์ และนายชัช ชลวร ประธานชมรมโพธิคยา เข้าร่วมในพิธีเปิด
โดยในพิธีมีการจัดบวงสรวง ณ พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ การจัดขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมล้านนา ขบวนแห่ตามแบบล้านนา แห่พระพทุธรูป และตราสัญลักษณ์โครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน โดยคณะสงฆ์จากประเทศต่างๆ ดังกล่าวจำนวน 150 รูป เริ่มตั้งแต่วัดพระธาตุผาเงาไปามถนนสายเชียงแสน-แม่สาย เพื่อข้ามด่านลำน้ำสายพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย ไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา จากนั้นขึ้นสู่ทิศเหนือมุ่งหน้ายังเมืองเชียงตุงซึ่งเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนามั่นคงแห่งหนึ่งของโลก แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองเดียนเบียนฟู จ.เดียนเบียน ประเทศเวียดนาม ก่อนกลับเข้าสู่ สปป.ลาว เพื่อทำพิธีทอดผ้าป่าและปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ วัดผาโอ แขวงหลวงพระบาง และวัดพระธาตุหลวง แห่งนครหลวงเวียงจันทน์ และเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทย
โดยคณะพระสงฆ์ 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง จะร่วมกันพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ คำชะโนด จ.อุดรธานี จากนั้นเดินทางร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร ก่อนจะร่วมกับคณะสงฆ์จาก 8 วัด ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ พระธาตุพนม จ.นครพนม และสิ้นสุดเส้นทาง ณ ปราสาทนครธม จ.เสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีการจัดพิธีปิดโครงการอย่างยิ่งใหญ่และคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละประเทศหลายพันคน
พลเอกไพโรจน์ พานิชสมัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานในพิธีเปิดกล่าวว่า เมื่อสองพันปีที่แล้วพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง จนได้รับการขนานนามว่า แผ่นดินสุวรรณภูมิ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ประชาชนส่วนใหญ่ใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิต งานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขงครั้งนี้ นับเป็นโครงการที่ดี เพราะมีความตั้งใจด้วยความบริสุทธ์เพื่อร่วมกันหนุนเสริม เผยแผ่และปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา สร้างความผูกพันกระชับมิตรผ่านการธรรมยาตราไปยังดินแดนชาวพุทธ 5 ประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พุทธวัฒนธรรมประเพณีระหว่างชาวพุทธกลุ่มปะเทศลุ่มน้ำโขง กิจกรรมที่ดีงามเช่นนี้เชื่อมั่นว่าเป็นความภาคภูมิใจสำหรับพวกเราชาวพุทธ ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชาและเวียดนาม และยังก่อให้เกิดความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้ง อันนำไปสู่การช่วยเหลือกันฉันมิตรในหลายด้าน อาทิ สัมพันธไมตรีและความมั่นคงระหว่างประเทศ ด้านสังคม วัฒนธรรมประเพณีและด้านเศรษฐกิจ
“เป็นที่น่ายินดีที่เรามีผู้ร่วมงานจาก 5 ประเทศ อาทิ ผู้นำคณะสงฆ์ ผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งเป็นพุทธบริษัทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้พร้อมใจกันเดินทางมาร่วมพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก ทำให้เห็นถึงพลังความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจ เพื่อเป้าหมายเป็นหนึ่งเดียว อันจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพที่ยั่งยืนในทุกมิติ” พลเอกไพโรจน์ กล่าว ด้าน นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย เปิดเผยว่า งานธรรมยาตราครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากดินแดนพุทธภูมิ ถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนาเชื่อมต่อมายังดินแดนลุ่มน้ำโขงแผ่นดินสุวรรณภูมิ โดยครั้งนี้นับเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 จากดำริพระอาจารย์ใหญ่ ดร.พระมหาผ่อง สะมาเลิก อดีตประธานศูนย์กลางองค์การพระพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว ได้เมตตามอบแนวทางนโยบายไว้ขณะที่อาพาธหนัก ก่อนที่จะละสังขารสิริอายุ100 ปี ว่า ให้เดินหน้ามุ่งมั่นทำงานต่อไปในแนวทางพุทธพลิกสุวรรณภูมิ งานนี้จะเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ สถาบันโพธิคยาฯ จึงได้น้อมรับคำแนะนำและขยายผลเป็นงานธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ครั้งแรก โดยเป็นการร่วมมือทำงานระหว่างภาคีเครือข่าย 5 ประเทศ อันเปรียบเสมือนการรวบรวมญาติธรรมในดินแดนลุ่มน้ำโขงมาบำเพ็ญกุศลบารมีร่วมกัน เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ในการนำพุทธธรรมคำสอนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปรับใช้กับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความร่มเย็นอันเกิดจากสันติภาพทั่วแผ่นดิน
“ผมเชื่อมั่นว่างานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินในครั้งนี้จะเกิดความสำเร็จที่งดงามด้วยกุศลสามัคคีธรรมที่ทุกท่านได้บำเพ็ญร่วมกัน และจะนับเป็นประวัติศาสตร์ที่ชาวพุทธ 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขงต้องบันทึกไว้ ซึ่งพุทธบริษัทร่วมมือร่วมใจหนุนเสริมการนำพุทธธรรมไปใช้ในวิถีชีวิตและการปฏิบัติงานทุกภาคส่วนเพื่อสันติภาพของประชาชนภูมิภาคลุ่มน้ำโขง” เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น