น้องเขยโหด ทนพี่เขยเมาแล้วส่งเสียงดังไม่ไหว คว้าลูกซองสั้นบุกยิงดับ

เมื่อเวลา 21.05 น. ของคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2562 พ.ต.ต.สุพล ใจแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกยิงตายที่หน้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.น้ำรัด ขอให้ไปทำการสอบสวนด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ประยูร พริบไหว ผกก.สภ.หนองม่วงไข่ ทราบ พร้อมทั้งประสานมูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์จุดตรวจ อ.หนองม่วงไข่ แพทย์เวร รพ.หนองม่วงไข่ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานรุดไปที่เกิดเหตุต่อมา พ.ต.อ.ประยูร พริบไหว ผกก., พ.ต.ท.ถาวร ยอดวีระพงศ์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ต.นฤพนธ์ อะทะเสน สว.สส. รุดไปยังที่เกิดเหตุด้วย โดยที่เกิดเหตุข้างวัดหนองน้ำรัด เป็นถนนหน้าบ้าน เลขที่ 77 หมู่ 2 ต.น้ำรัด พบผู้เสียชีวิตนอนตายที่หน้าบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมาคือ นายชุม เฟื่องฟู อายุ 63 ปี สภาพผู้ตายสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ โดนยิงด้วยปืนลูกซองเบอร์ 12
จากการตรวจสอบพบถูกยิงเข้าศีรษะ ทะลุหลังหลายนัด และบริเวณท้ายทอย ทะลุด้านหน้า 1 นัด จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ตำรวจจากกองวิทยาการ พบปลอกกระสุน ขนาดเบอร์ 12 ตกอยู่ข้างรั้วกำแพง 1 ปลอก และตกในที่เกิดเหตุ ห่างจากศพไม่มากนักอีก 4 ปลอก และพบในลำกล้องปืนอีก 1 นัด และค้นพบอีก 2 นัด บนบ้าน จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนมือปืนรายนี้คือ นายวิชิต ไชยวงศ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านบริเวณพื้นที่เดียวกัน แต่อยู่หลังใหญ่  มีศักดิ์เป็นน้องเขยของผู้ตาย ได้รอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น พร้อมกระสุนที่เหลืออีก 3 นัด อยู่ในรังเพลิงอีก 1 นัด ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบสวน ที่ สภ.หนองม่วงไข่ จากการสอบสวนนายวิชิต ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนลงมือยิง เนื่องจากอดทนมานานแล้ว ผู้ตายเป็นพี่เขย ไม่ทำการงานอะไร มีแต่ดื่มเหล้าเมาทุกวัน พอเมาได้ที่ก็อาละวาดส่งเสียงดังแทบทุกวัน เมื่อก่อนนี้ก็อยู่บ้านหลังใหญ่ด้วยกัน ตนและภรรยาได้ช่วยกันสร้างบ้านชั้นเดียว เทปูนให้อยู่บริเวณข้างบ้าน ซึ่งเป็นที่ดินว่าง
นายวิชิต ให้การอีกว่า ผู้ตายลงไปอาศัยบ้านหลังเล็กที่สร้างให้ แต่ก็ยังมีปากเสียงกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อเมามาก็ชอบดุด่าสารพัด ทั้งๆ ที่ผู้ตายก็ไม่ได้ทำงานอะไร จนตนอัดอั้นตันใจมานาน เก็บความแค้นนี้ไว้ และแอบไปซื้อปืนที่ อ.สอง มาในราคา 800 บาท และก็ซื้อกระสุนมา 10 นัด แต่ก็ไม่สบโอกาสสักที จนกระทั่งคืนนี้ เนื่องจากในหมู่บ้านมีงานศพเพื่อนบ้าน ต่างก็ไปงานศพกันหมด พอเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียง ผู้ตายเอะอะโวยวาย อยู่หน้าบ้านหลังเล็ก ตนก็เลยตัดสินใจ เอาปืนมาพร้อมกระสุนอีก 7 นัด ปีนขึ้นกำแพงบ้าน และยิงไปที่ร่างของผู้ตาย 1 นัด จากนั้นก็ หักคอเอากระสุนออก และใส่เข้าไปอีก 1 นัด แต่ยิงไม่ออก ตนก็สลัดกระสุนออก และใส่ไปใหม่อีก 1 นัด ลงจากกำแพงเข้าไปยิงซ้ำเข้าที่ศีรษะ อีก 1 นัด และก็สลัดกระสุนออก ใส่เข้าไปอีก ยิงกระหน่ำซ้ำอีก 1 นัด และนัดที่ 5 ก็ใส่เข้าไปอีก แต่ไม่ได้ยิง เพราะเห็นว่าผู้ตายคงตายแล้ว กระสุนนัดที่ 5 เลยคาอยู่ในรังเพลิง จากนั้นก็ขึ้นบ้านไปอาบน้ำรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะมอบตัว
สำหรับนายชุม ผู้ตาย เคยไปอยู่กับภรรยามาแล้วที่ในตัวเมือง แต่จะด้วยเหตุใดไม่ทราบ ผู้ตายได้กลับมาอยู่บ้านได้หลายปีแล้ว และก็เกิดปากเสียงกับน้องเขยทุกวัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากสอบสวนแล้วตำรวจได้ควบคุมตัวนายวิชิต ไว้ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และมีอาวุธและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนศพก็มอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยทางญาติๆ ได้ตกลงว่าจะนำไปไว้ที่วัด เนื่องจากที่บ้านคับแคบ

ร่วมแสดงความคิดเห็น