ห่วงสาวเหนือ เป็นเหยื่องานนวด แฝงค้ากามเกาหลี

เครือข่ายพัฒนาประชาสังคม ภาคเหนือ (ด้านแรงงาน )และกลุ่มพัฒนาสตรีภาคเหนือ กล่าวว่าจากสภาวะสังคมที่การจ้างงาน จะลดน้อยลงในปี 63 และตำแหน่งงานที่หายาก ค่าจ้างน้อยกว่าวุฒิการศึกษา อาจส่งผลให้กลุ่มสตรีบางส่วนในภาคเหนือ ตัดสินใจไปหางานในต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ซึ่งแรงงานจากภาคเหนือ ติดอันดับต้นๆ รองจากภาคอีสาน มีความเป็นไปได้สูง ทั้งผ่านกลุ่มนายหน้าจัดหางานที่เดินสายชักชวนในพื้นที่ และผ่านสื่อสังคมเฉพาะกลุ่ม
คณะทำงานมูลนิธิพัฒนาศักยภาพชุมชน (ภาคเหนือ ) กล่าวว่า การเดินทางไปทำงานของกลุ่มแรงงานทั่วโลก จะเหมือนๆกันคือ ไปอย่างถูกต้อง และ แบบผิดกฎหมาย ซึ่งเกาหลีใต้ น่าจะเป็นพื้นที่ทำงานที่คนๆเดียว สามารถเลี้ยงดูได้ทั้งครอบครัว จากรายได้ที่สูงกว่าค่าจ้างปกติของไทย
หากเป็นแรงงานผีน้อย ลักลอบทำงานเฉลี่ยต่ำสุด เดือนละ 1.2-1.3 ล้านวอน (ราวๆ 3.4-3.7 หมื่นบาท) ถ้าเป็นงานภาคการเกษตร เก็บผลผลิตขั้นต่ำ วันละ 7 หมื่นวอน (ราวๆ 2 พันบาท)
การไปทำงานแบบผิดกฎหมาย จะมี 3 แบบ คือติดต่อนายจ้างโดยตรง การชักชวนจากแรงงานคนรู้จักกัน ซึ่งเคยไปทำงานหรือกำลังทำอยู่ที่นั่น กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผีน้อย แบบสามคือ การหางานผ่านเอเย่นต์ ซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านเฟซบุ๊กและแอพพลิเคชัน โดยรูปแบบนี้มีความเสี่ยงสูง ในการเข้าสู่วงจรค้ามนุษย์
“น้องบี”นามสมมติ สาวบ้านธิ ลำพูน วัย 24 ปีเ ล่าว่า จบสายอาชีพ ระดับ ปวส. เคยทำงานในโรงงานเขตนิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ไปทำงานโรงงานที่เกาหลี จากการชักชวนของญาติ ที่ไปแต่งงานกับชาวเกาหลี และเปิดร้านอาหารไทยในเมืองอันซัน ซึ่งเป็นอีกชุมชนแรงงานข้ามชาติขนาดใหญ่ เวลามาทานอาหารที่ร้านญาติ ก็จะได้ยินได้ฟังการปรับทุกข์ เล่าอะไร ให้ฟังกันในหมู่คนไทย ทำให้ทราบว่า มีผู้หญิงไทยจากแถวๆบ้านเราไม่น้อยไปเที่ยว แล้วถือโอกาสบิน รับงานนวด โดยผ่านเอเย่นต์ในพื้นที่ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันที่รู้จักกัน กลุ่มบอส(พ่อเล้า) กลุ่มนี้มักจะมีแม่แทค (ภรรยาคนไทย จัดหาเด็กส่ง รับงานแล้วหักค่าหัวคิว ) ปกติสัญญานวดจะมีระยะเวลา 85 วัน หักค่าใช้จ่ายหมดสามารถกลับบ้านหรือเปลี่ยนบอสได้ ส่วนที่อยู่ต่อรับงานอิสระ บางรายผันตัวเป็นแม่แทค (แม่เล้า )ก็เยอะ
“อยากแนะนำ และเตือนว่า การหนีทัวร์ หรือไปรับงานนวดกับเอเย่นต์เหล่านี้ อันตราย แม้จะรายได้สูง แต่ตม.เกาหลี กวดขันหนักมาก ได้ไม่คุ้มเสีย และสร้างความเสื่อมเสียกับวงการนวดไทยด้วย หากจะไปทำงานจริงๆ หางานตามโรงงานหรือ ไปตามระบบ อีพีเอส.ที่เกาหลี-ไทยมีข้อตกลงกันปีละกว่า 6 พันคน ดีกว่า “
ทั้งนี้ที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ของไทยในเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้ เนื่องจากค่าจ้างสูงราวๆ 55,844 บาท/เดือน และนายจ้างเกาหลีต้องการจ้างแรงงานไทย เนื่องจากมีฝีมือ ขยัน อดทน ขณะนี้มีกว่า 1.4 แสนคน เริ่มเป็นชุมชนขนาดใหญ่ๆในหลายๆเมือง
แรงงานไทยที่ต้องการไปทำงาน สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง ขณะนี้มีคนไทยถูกปฏิเสธเข้าเมืองที่สนามบิน เฉลี่ย 400-600 คน/วัน เพราะเกาหลีเข้มงวดมากขึ้น หลังจากเปิดโอกาสให้แรงงานต่างชาติที่ลักลอบทำงาน ออกมารายงานตัวกลับประเทศโดยสมัครใจ แต่มีกลับน้อย ยิ่งลักลอบเข้าไปมากขึ้น แรงงานไทยผิดกฎหมาย สาเหตุที่ไม่ยอมกลับ เพราะค่าจ้างสูงทำให้ยอมเสี่ยงทำงานต่อ โดยเฉพาะคนที่ได้ทำงานกับนายจ้างที่ดูแลดี
แรงงานผิดกฎหมายก็ปรับตัวดี มีเครือข่าย แจ้งข้อมูล ข่าวสารเตือนกันว่า เจ้าหน้าที่จะลงจุดไหน ยังมีความช่วยเหลือจากคนในท้องที่ ทั้งนายจ้างและเจ้าของที่พัก เพราะการเข้ามาของแรงงานผิดกฎหมาย ก็ไม่แตกต่างจากเชียงใหม่ ที่ ชุมชน คนในท้องถิ่น ย่านที่พักแรงงานต่างด้าว ได้ประโยชน์หลายๆด้าน ทั้งเช่าบ้าน,ร้านค้า และความต้องการแรงงานในภาคที่ขาดแคลน เช่น งานเกษตร ,งานโรงงาน งานก่อสร้าง เป็นต้น
ที่ผ่านๆมาการค้าแรงงานของสาวไทย พบว่า ถือวีซ่านักท่องเที่ยว( ระยะเวลา 90 วัน) ส่วนหนึ่งแอบหนีทัวร์ ลอบทำงาน และงานนวด เป็นอีกงานที่ส่งผลกระทบต่อสาวไทย ที่จะไปเที่ยวเกาหลีใต้ ทำให้ถูกตรวจค้น และปฏิเสธเข้าเกาหลีใต้ในแต่ละวันมากขึ้น และจับนายหน้าได้ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น