เครือข่ายชุมชนเชียงใหม่ ย้ำจุดยืน คัดค้านอนุญาตให้ร้านค้าแผงลอย กลับมาตั้งขายบนลานท่าแพอีก

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ตามที่วันที่ 8 ต.ค. 62 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานประชุมที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมถนนคนเดินลานประตูท่าแพ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งตัวแทนกลุ่มผู้ค้า ทำให้เกิดกระแสข่าวว่าลานประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์หรือแลนด์มาร์คของเมืองเชียงใหม่ ที่บรรดานักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะชาวจีน นิยมและชื่นชอบอย่างมาก ที่จะต้องมาเยี่ยมชมพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก หากได้มาท่องเที่ยวเชียงใหม่ กำลังจะถูกอนุญาตให้จัดกิจกรรม และจัดสรรพื้นที่ให้ตั้งร้านจำหน่ายสินค้าได้อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปี 2559 ถูกสั่งระงับไป เนื่องจากก่อนหน้านั้น มีการอนุญาตให้ตั้งร้านจำหน่ายสินค้าได้ในช่วงจัดกิจกรรมถนนคนเดินวันอาทิตย์ แต่ปรากฏว่ากลับมีการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ไม่เว้นแต่ละวัน จนลานประตูท่าแพมีสภาพไม่ต่างจากตลาดนัด ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยและมีรถจอดเต็ม ไม่ใกล้เคียงกับการเป็นโบราณสถาน และแลนด์มาร์คของเมืองแม้แต่น้อย ทำให้ภาคประชาชนด้านการอนุรักษ์เมืองเก่า ออกมาตั้งข้อสังเกตและเคลื่อนไหวคัดค้าน จนกระทั่งต้องยกเลิกการอนุญาตไปในที่สุด
โดย นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า เบื้องต้นทางเครือข่ายภาคประชาชน ที่ทำงานด้านการอนุรักษ์เมืองเก่า และการผลักดันเชียงใหม่เป็นมรดกโลก รวมทั้งเคยเคลื่อนไหวคัดค้านการอนุญาต ให้กลุ่มผู้ค้านำสินค้าต่างๆ ไปตั้งร้านหรือวางจำหน่ายบนลานประตูท่าแพ จนเป็นผลเมื่อปี 2559 รู้สึกกังวลใจและไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ทราบเรื่อง ที่รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานการประชุมแนวทางการส่งเสริมถนนคนเดินข่วงประตูท่าแพ เพราะเชื่อว่าเป็นการเตรียมการ ที่จะให้มีการกลับมาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ลานประตูประตูท่าแพ ในการการตั้งร้านหรือวางจำหน่ายสินค้าอีกครั้ง
โดยอ้างเหตุผลว่า ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามความพยายามของคนบางกลุ่ม ที่มีผลประโยชน์จากการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ ทั้งผลประโยชน์เชิงพาณิชย์และทางการเมือง ซึ่งทางเครือข่ายยังคงยืนยันจุดยืนคัดค้านการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ตั้งร้าน หรือวางจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพเช่นเดิม
ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ย้ำว่า ลานประตูท่าแพ เป็นพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถือเป็นโบราณสถานที่เป็นสัญลักษณ์ หรือแลนด์มาร์คของเมืองเชียงใหม่ ทำให้ทราบว่าเป็นพื้นที่ของเขตเมืองเก่า ซึ่งสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์ และพัฒนาให้มีความสง่างามเป็นหน้าตาของเมือง อีกทั้งประชาชนชาวเชียงใหม่ทุกคน รวมทั้งนักท่องเที่ยวควรจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน สำหรับการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
แต่ไม่ใช่การอนุญาตหรือปล่อยให้คนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่ได้รับประโยชน์หรือเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในเชิงธุรกิจบนพื้นที่สาธารณะดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่และศิลปากร เคยมีการทำข้อตกลงร่วมกันไว้แล้ว ว่าพื้นที่ลานประตูท่าแพนั้น จะให้ใช้สำหรับกิจกรรมสาธารณประโยชน์, ประเพณีวัฒนธรรม และการศึกษา รวมทั้งห้ามซื้อขายสินค้า จึงอยากให้ยึดถือปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้นางเสาวคนธ์ บอกด้วยว่า หากต้องการเปิดพื้นที่เพื่อให้ผู้ค้าตั้งร้านจำหน่ายสินค้า โดยอ้างว่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว มองว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องมาใช้พื้นที่ลานประตูท่าแพ เพราะทุกวันนี้มีพื้นที่มากมายหลายจุด ที่มีการจัดสรรพื้นที่เปิดเป็นตลาดนัดหรือถนนคนเดินให้ผู้ค้าวนเวียนกันไปตั้งร้านได้ทุกวัน ซึ่งการใช้พื้นที่เปิดตลาดนั้น ที่จริงแล้วแทบไม่ต้องใช้ความคิดอะไรเลย หากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะไปคิดเรื่องการพัฒนาย่านการค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีอยู่แล้ว ให้มีเสน่ห์ดึงดูดใจและเป็นระเบียบมีระบบยิ่งขึ้น จะเกิดประโยชน์ยั่งยืนมากกว่า ส่วนพื้นที่ลานประตูท่าแพนั้น ควรรักษาไว้ให้เป็นมรดกและเชิดหน้าชูตาบ้านเมืองจะดีที่สุด

สำหรับการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวนั้น นางเสาวคนธ์ เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ และเครือข่ายภาคประชาชน ได้มีการประชุมหารือร่วมกันเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 62 พร้อมทั้งทำหนังสือในนามคณะกรรมการอนุรักษ์ และพัฒนาเมืองเก่าเชียงใหม่ภาคประชาสังคม ส่งถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, กรมศิลปากร และประธานคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า เพื่อคัดค้านและให้พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวอย่างถ้วนถี่ ขณะที่ในวันที่ 3 พ.ย. 62 ทางเครือข่ายภาคประชาสังคมจะจัดกิจกรรม “ล้างข่วง ไล่ขึด ฮับขวัญเมืองเดือนยี่เป็ง” เพื่อย้ำจุดยืนและทำความสะอาดลานประตูท่าแพ เพื่อรับช่วงการจัดงานประเพณียี่เป็ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น