นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสามครั้งที่ 22

ตอนเช้าวันที่  4 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น  นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ครั้งที่ 22 (10 + 3) ที่กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ พร้อมด้วย นายมุน แจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เข้าร่วมการประชุม
นายหลี่ เค่อเฉียงกล่าวว่า ความร่วมมือ 10+3 นั้นเกิดขึ้นเพื่อรับมือวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในเอเซีย ได้สร้างคุณูปการในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของเอเซียและทั่วโลก  ปัจจุบัน สถานการณ์ทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและสลับซับซ้อน เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ลัทธิกีดกันทางการค้านับวันมีมากขึ้น  นำมาซึ่งความเสี่ยงและความท้าทายใหม่ๆต่อการพัฒนาของประเทศเอเชียตะวันออก ประเทศ 10+3 มีหน้าที่เสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือ ร่วมกันรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทาย เสริมสร้างพลังใหม่ๆเพื่อให้เศรษฐกิจในภูมิภาคและทั่วโลกสามารถเติบโตอย่างมั่นคง นายหลี่ เค่อเฉียงกล่าวว่า เราควรค้นหาศักยภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมกรอบความร่วมมืออาเซียนบวกสาม (10+3) ให้มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ประการแรก ยกระดับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจให้สูงยิ่งขึ้น ด้วยความพยายามร่วมกันของ 15 ประเทศภาคีสมาชิกของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP)ซึ่งได้เสร็จสิ้นการเจรจาทางด้านเอกสารทั้งหมดและการเจรจาเกี่ยวกับมาตรฐานการเข้าร่วมตลาด    ถือเป็นผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของการสร้างเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออกซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด สมาชิกมีความหลากหลายมากที่สุด และมีศักยภาพการพัฒนามากที่สุดของโลก ย่อมจะส่งเสริมกระบวนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างทรงพลัง  ปกป้องการค้าเสรี เพิ่มพูนความเชื่อมั่นของตลาด บนพื้นฐานดังกล่าว เรายินดีเร่งกระบวนการเจรจาเขตการค้าเสรีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ให้เร็วยิ่งขึ้น  เพื่อบรรลุเป้าหมายในด้านการสร้างประชาคมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก ประการที่สอง  สนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาค   ฝ่ายจีนสนับสนุน  “แถลงการณ์ว่าด้วยข้อริเริ่มเกี่ยวกับการเชื่อมโยงซึ่งกันและ”  เชื่อมโยมข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”กับข้อริเริ่มเกี่ยวกับการเชื่อมโยงซึ่งกันและกันในภูมิภาคเข้าด้วยกัน
ประการที่สาม เสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาค ทุกฝ่ายควรปฎิบัติตามมติเอกสารวิสัยทัศน์ “ทิศทางยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางการเงินการคลัง 10 + 3”  แสวงหาโครงสร้างที่สามารถกำกับดูแลเศรษฐกิจในภูมิภาคด้วยดีผ่านความร่วมมือทางด้านการเงินการคลัง ตอบสนองความต้องการของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ประการที่สี่  ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติในปี 2030 แบ่งปันประสบการณ์การพัฒนากับทุกฝ่ายผ่าน “ข้อริเริ่มความร่วมมือว่าด้วยการขจัดความยากจนในเอเชียตะวันออก” นอกจากนี้ ฝ่ายจีนยินดีที่จะช่วยลดช่องว่างด้านการพัฒนาในภูมิภาคผ่านความร่วมมือกรอบลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง และกรอบความร่วมมือเขตการเติบโตจีนและภาคตะวันออกอาเซียน ตลอดจนกลไกความร่วมมืออนุภูมิภาคอื่นๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาเชิงภูมิภาค ฝ่ายจีนสนับสนุนการจัดตั้งกลไกการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติ โดยฝ่ายจีนจะรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งแรกในปีหน้า
ประการที่ห้า  ดำเนินการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง บริหารกองทุนความร่วมมือ10+3 ให้เหมาะสม ดำเนินโครงการความร่วมมือประชานิยมให้มากยิ่งขึ้น  โดยโครงการเครือข่ายเมืองวัฒนธรรม 10+3 ได้เริ่มขึ้นแล้วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  ฝ่ายจีนยินดีที่จะเปิดตัวเว็บไซต์ความร่วมมือ10+3 และจะจัดงานสัมมนาความร่วมมือด้านสื่อสารมวลชน 10+3  ฟอรั่มนยุววิทยาศาตร์ 10+3 และกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมความใกล้ชิดและความเข้าใจซึ่งกันและกันในหมู่ประชาชน บรรดาผู้นำที่ร่วมประชุมต่างได้แสดงความชื่นชมต่อความสำเร็จในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับภูมิภาคตามโครงการความร่วมมือ 10 + 3 ในช่วงปีที่ผ่านมานี้  ชื่นชมการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP)ได้ผลสำเร็จที่สำคัญ มีความมุ่งมั่นที่จะลงนามข้อตกลงนี้ในปี2020  และจะส่งเสริมการค้าและการลงทุนอย่างเสรีในภูมิภาค แสดงความยินดีต้อนรับต่อแถลงการณ์ว่าด้วยการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน 10+3 ส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูง ผู้นำทั้งหลายยังแสดงว่า เมื่อเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการเติบโตชะลอตัวลง ประเทศ 10+3 ควรแสดงบทบาทเป็นผู้นำ เสริมสร้างความร่วมมือให้เข้มแข็ง ร่วมกันรับมือความท้าทาย อุทิศกำลังเพื่อความสงบสุขและความรุ่งเรืองของภูมิภาค ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ผู้นำอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ว่าด้วย การเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น