นาข้าวหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.ห้วยแก้ว ประสบกับสภาวะภัยแล้งในพื้นที่ เสียหายนับ 1,000 ไร่

เกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 5, 8, 9, 13 และ 15 ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ต้องทำการเร่งสูบน้ำจากลำน้ำร่องค้าง เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อเข้าทำการหล่อเลี้ยงต้นข้าว ที่กำลังตั้งท้องและออกรวง นับ 1,000 ไร่ หลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จนส่งผลให้ต้นข้าวได้รับความเสียหายแห้งเหี่ยวตาย บางส่วนต้นข้าวยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย ได้รับความเสียหายแบบสิ้นเชิงและบางส่วน ซึ่งเกษตรกรยังคงมีความหวังว่าจะได้รับผลผลิตบ้าง หลังจากที่นำน้ำเข้าเติมในพื้นที่แปลงนา แต่ก็คาดว่าจะได้ผลผลิตไม่สมบูรณ์และเต็มที่เท่าที่ควรนัก เนื่องจากผลกระทบภัยแล้งดังกล่าวนั้น ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีฝนตกลงมา จึงส่งผลกระทบทำให้นาขาดน้ำในช่วงระยะที่ข้าวกำลังตั้งท้องและออกรวง จนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
ซึ่งนางสุข ไชยกุล เกษตรกรรายหนึ่งในพื้นที่ระบุว่า สถานการณ์ภัยแล้งดังกล่าวนั้น ได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและไม่เคยพบมาก่อนในพื้นที่ ตนเองทำนาประมาณ 15 ไร่ แต่ขณะนี้สามารถสูบน้ำที่อยู๋บริเวณสระของตนเองที่มีอยู่ เข้าทำการหล่อเลี้ยงได้ ประมาณ 5 ไร่ แต่ที่เหลือขณะนี้ เริ่มแห้งเหี่ยวตาย เนื่องจากน้ำไม่สามารถไปถึงได้ เนื่องจากมีระยะห่างกว่า 2 กิโลเมตร จากร่องน้ำแห่งนี้ ซึ่งขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่ต้องทำการสูบน้ำ เพื่อที่จะประคองต้นข้าวที่ยังคงเหลืออยู่ เพื่อให้ได้ผลผลิตเท่าที่ทำได้ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะได้รับผลผลิตไม่สมบูรณ์เต็มที่เท่าที่ควร จากสภาวะภัยแล้งดังกล่าว ที่มีความรุนแรงมาก ซึ่งตนเองอายุกว่า 60 ปี แล้วเพิ่งเคยพบในเรื่องภาวะแล้งที่รุนแรง อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และขณะนี้ไปอีกกว่า 1 เดือน จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งหากถึงเวลานั้น น้ำที่ทำการสูบไปจะสามารถหล่อเลี้ยงต้นข้าวเพียงพอหรือไม่ และคาดว่าผลผลิตในปีนี้จะได้รับ คิดว่าคงน้อยมากและไม่คุ้มต่อการที่ลงทุนลงไป สัมภาษณ์  นางบุญ ไชยกุล อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 307 หมู่ที่ 15 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา

ร่วมแสดงความคิดเห็น