ภาครัฐ และเอกชน จับมือกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอากาศยาน จัดงาน “Chiang Mai International AIRSHOW 2020 “ ครั้งที่1

ภาครัฐ และภาคเอกชน จ.เชียงใหม่ จับมือจัดงาน Chiang Mai International AIRSHOW 2020 ครั้งที่ 1 การแสดงอากาศยานขนาดเล็กครั้งแรกในภูมิภาค ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการบินทั่วไป (General Aviation) สนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ ต่อยอดการเป็นแหล่งประกอบ – ซ่อมบำรุงอากาศยานขนาดเล็ก ประเมินนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมงาน มากกว่า 30,000 คน ตลอด 3 วัน ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท พร้อมผลักดันให้จัดต่อเนื่องทุกปี ดึงเครื่องบินส่วนตัวทั่วโลกมาร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอากาศยานเติบโต
19 พฤศจิกายน 2562 นายสราวุฒิ วรพงษ์ นอภ.สันกำแพง นายดำรงค์  องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ นายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ และนายอาคม สุวรรณกันธา ประธานชมรมกิจกรรมทางอากาศเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าว การจัดงาน Chiang Mai International AIRSHOW 2020 ครั้งที่ 1 ที่สนามบิน Chiangmai Air Sports ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
นายดำรงค์  องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ร่วมกับหอการค้าจ.เชียงใหม่ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้เห็นพ้องว่า จ.เชียงใหม่ มีความพร้อมที่จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอากาศยานขึ้น เนื่องจากมีศักยภาพในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐาน ที่จะรองรับกิจกรรมทางการบิน ที่จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบด้านการบินจากต่างประเทศและในประเทศ มาเที่ยวชมและมีส่วนร่วมได้
การจัดงาน Chiang Mai International AIRSHOW 2020 ขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 23 ก.พ.2563 ขึ้น ณ สนามบินเชียงใหม่ แอร์สปอร์ต อ.สันกำแพง ขึ้นเพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของพื้นที่ด้านการบินและอากาศยาน รวมถึงการสร้างเครือข่ายด้านธุรกิจการบิน บุคคลที่เกี่ยวข้องในการการเตรียมความพร้อม ในการยกระดับกิจกรรมแสดงอากาศยาน ในระดับนานาชาติในระดับที่ใหญ่ขึ้นอนาคต อันจะเป็นจุดเริ่มที่สำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวด้านธุรกิจการบินในพื้นที่ รวมถึงส่งเสริมให้เชียงใหม่ -ภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางด้านการผลิตบุคลากร และเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการบินในอนาคต โดยเฉพาะการเป็นแหล่งประกอบ สร้างและซ่อมเครื่องบินขนาดเล็ก เป็นต้น“การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักสำคัญ 3 ประการ คือกระตุ้นเศรษฐกิจหลังฤดูการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอากาศยาน และการผลักดันให้เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางการบินทั่วไป หรือเครื่องบินขนาดเล็ก และอากาศยานอื่น ๆ เป็นต้น”
โดยกิจกรรมตลอดทั้ง 3 วัน จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การ Fly in จากสถาบันการบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับมาแล้วมากกว่า 30 ลำ การบินประเภทร่มบิน , พาราเพลน Aero Chute , การแสดงบอลลูน รวมทั้งหมดแล้วมากกว่า 70 – 80 อากาศยาน โดยจะมีการแสดงการบินเครื่องบินเล็ก การสาธิตเครื่องบินบังคับวิทยุ แบบไฮเทคโนโลยี การบินบอลลูน ทไวไลท์ ที่มีสีสันความสวยงามช่วงค่ำ รวมถึงในพื้นที่จัดงาน จะมีการจัดนิทรรศการด้านการบินจากสายการบินต่าง ๆ  การจัด Workshop ให้ความรู้ด้านการบิน การออกบูธแสดงสินค้า OTOP ของ อ.สันกำแพง มากกว่า 100 บูธ เป็นต้น
ด้าน นายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ กล่าวว่าการจัดงานเชียงใหม่แอร์โชว์ 2020 ในครั้งนี้ หอการค้าฯ ได้เป็นองค์กรจัดร่วม โดยถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภูมิภาคได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ที่มีความชื่นชอบด้านการบิน รวมถึงเยาวชน นักท่องเที่ยวในภาคเหนือ ที่คาดว่าจะเข้ามามากกว่า 30,000 คน ตลอด 3 วัน โดยวางไว้ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวไทย ร้อยละ 70 ต่างประเทศ ร้อยละ 30 ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดในพื้นที่ (Economic Impact) ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท  ที่จะหมุนเวียนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวโดยรวมต่อไป
หอการค้าฯ มีนโยบายให้เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางการบินทั้งเชิงพาณิชย์และทั่วไป ทั้งนี้ได้เร่งรัดการพัฒนาสนามบินแห่งเดิม ให้สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้สูงสุดที่ 20 ล้านคนต่อปี ซึ่งทางการท่าอากาศยาน จะมีแผนงานถึงปี 2568 แต่การให้บริการของสนามบินเชียงใหม่ มีขีดความสามารถให้บริการได้ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. อีกทั้งสถานที่ตั้งของสนามบินยังอยู่ในเขตชุมชนหนาแน่น และก่อมลภาวะทางเสียง ซึ่งไม่มีความเหมาะสมในอนาคต และอาจจะกลายเป็นอุปสรรคที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจของจ.เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนได้ ภาคเอกชนจึงมีความเห็นให้มีการเร่งรัดจัดทำแผนแม่บทสนามบินเชียงใหม่ แห่งที่ 2 (สนามบินล้านนา) และยื่นของบประมาณก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ก่อนแผนงานเดิมต่อไป  
นายสราวุฒิ วรพงษ์ นอภ.สันกำแพง กล่าวว่า  อ.สันกำแพง มีส่วนร่วมที่จะนำสินค้าที่โดดเด่นในพื้นที่มาจำหน่ายในพื้นที่ รวมถึงการประสานทุกหน่วยงานในระดับท้องถิ่น เพื่อมาอำนวยความสะดวก สร้างสีสันภายในงานด้วย  เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดรายได้กับชุมชน รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมภายในชุมชนให้เข้มแข็ง เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวที่สำคัญในพื้นที่ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้ง 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน
นายอาคม สุวรรณกันธา ประธานชมรมกิจกรรมทางอากาศเชียงใหม่ กล่าวว่าการจัดงาน Chiang Mai International AIRSHOW 2020 ขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ นับเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมด้านเมืองการบิน และกำหนดไว้ว่าจะจัดงาน Thailand Airshow ในระดับนานาชาติขึ้น ในปี 2565 ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ขณะที่การจัดงานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จะเน้นเครื่องบินการบินทั่วไป (General Aviation) ที่มิใช่การบินทางทหาร และการบินพาณิชย์ ซึ่งถือว่าเชียงใหม่มีศักยภาพสูงมากเพราะปัจจุบันมีธุรกิจท่องเที่ยวแบบร่มบิน ร่มร่อน รวมถึงบอลลูนจำนวนมาก เป็นกิจกรรมทางอากาศที่สามารถส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างแรงบันดาลใจด้านการบินให้เยาวชน และผู้สนใจได้เข้าสู่ธุรกิจ และอุตสาหกรรมด้านการบินด้วย
ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้ จึงจะเป็นส่วนสำคัญที่ทางชมรมฯ เล็งเห็นว่าเป็นโอกาสของ จ.เชียงใหม่ จะเป็นศูนย์กลางของการบินทั่วไป (General Aviation Industry)  ที่ครอบคลุม การบินส่วนบุคคล, การบินช่วยเหลือทางการแพทย์ , อากาศยานไร้คนขับ , การฝึกบิน , การบินเช่าเหมาลำทั้งในรูปแบบ Air charter และ Air taxi , การบินของ Private Jet , การบินแบบ Corporate aviation , สมาคมการบินหรือ Aeroclub , การบินชมภูมิประเทศ , การบินแบบ Aerial work เช่น การบินถ่ายภาพทางอากาศ , การบินเพื่อป้องกันปัญหาหมอกควัน รวมทั้งรูปแบบการบินแบบอื่น ๆ อีกมากมาย และที่สำคัญคือจะเป็นการกระตุ้นการผลิตนักบินและช่างอากาศยานด้วย
ซึ่งในอนาคตเป็นไปได้ที่พื้นที่ จ.เชียงใหม่ และลำพูน จะพัฒนาไปสู่เมืองการบินและอากาศยานภาคเหนือ (Northern Aerotropolis) ได้ ซึ่งในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ และจีนก็มีบริษัทด้านนี้กว่า 471 บริษัท มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น