รองผู้ว่า กกท. พ.ท. รุจ ประธาน ปฐมนิเทศส่งท้ายทัพซีเกมส์ ไทย เรือใบเสียรู้ถูกปรับที่สนามบิน

”บิ๊กต้อม” กำชับทุกทีมกีฬาเช็กเอกสารสำคัญ นักกีฬาอายุไม่เกิน 17 ปี ต้องมีลายเซ็นผู้ปกครองกำกับ ยินยอมให้เดินทางโดยลำพังมาเเข่งขันซีเกมส์ 2019 หลังเรือใบทัพเเรก ที่เดินทางถึง เสียรู้ถูกปรับ เพราะลืมพกเอกสารยืนยัน เกือบ 2 พันบาท ด้าน พันโท รุจ เเสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศเเละวิทยาศาสตร์การกีฬา ชี้ กกท.ทุ่มงบนับ 7 ร้อยล้าน เพื่อเตรียมการสู้ทั้งซีเกมส์เเละโอลิมปิก เชื่อเวลานี้นักกีฬาทุกคนพร้อมทำหน้าที่เพื่อชาติเเล้ว

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง 30 พ.ย.-11 ธ.ค.62 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ล่าสุดเมื่อ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา พันโทรุจ เเสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศเเละวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานในงานอบรม สัมมนา ผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน และคณะเจ้าหน้าที่ที่เดินทางเข้าร่วมการเเข่งขันซีเกมส์ 2019 ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป พระราม 9 โดยงานนี้ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดทำศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ให้เกียรติเข้าร่วม โดยยังมีตัวเเทนอีกเกือบ 50 สมาคมกีฬาที่เเข่งขัน เดินทางเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

พันโทรุจ เเสงอุดม เปิดเผยว่า กีฬาซีเกมส์ 2019 ทั้งการกีฬาเเห่งประเทศไทย เเละคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย ร่วมกันทำงานกับสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการเเข่งขันหนนี้อย่างใกล้ชิด โดยเป้าหมายก็เพื่อติดตาม ประเมินผลการเเข่งขันตั้งเเต่ก่อน ระหว่าง เเละหลังการเเข่งขัน ที่สำคัญก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับทุกสมาคมกีฬาต่างๆ ที่จะเดินทางเข้าร่วมการเเข่งขัน

รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย เผยอีกว่า ทัพนักกีฬาไทยเก็บตัวทั้งสิ้น 8 เดือน เพื่อเตรียมการเเข่งขันรายการนี้ ซึ่ง กกท.ใช้งบประมาณในการสนับสนุนเพื่อเตรียมการในส่วนนี้ไปทั้งสิ้น 700 กว่าล้านบาท ส่วนงบประมาณในส่วนของการเดินทางไปแข่งขันก็เกือบๆ 200 ล้าน กกท. จึงพยายามดำเนินการใช้งบประมาณสนับสนุนให้นักกีฬาไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งถึงวันนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วต่อการดำเนินการทุกอย่าง

ด้าน ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดทำศึกซีเกมส์ 2019 เผยถึงความพร้อมล่าสุด หลังไทยได้ส่งหัวหน้าคณะนักกีฬาเดินทางไปร่วมทำ ”ดีไอเอ็ม” หรือลงทะเบียนยืนยันรายชื่อคณะนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการเเข่งขันกับทางเจ้าภาพ ฟิลิปปินส์ พร้อมสรุปยอดรวมของคณะนักกีฬาไทยในซีเกมส์ 2019 อยู่ที่ 1,437 คน โดยเป็นนักกีฬา 981 คน เเบ่งเป็นชาย 568 คน เเละหญิง 412 คน
บิ๊กต้อม ยังเผยอีกว่า เราจะยังตั้งกองอำนวยการนักกีฬาไทย เพื่อควบคุมเเละให้ความช่วยเหลือเเก่ทัพนักกีฬาไทย ทั้ง 4 เมือง ทั้งที่คลาร์ก ซิตี้, มะนิลา, ซูบิค เเละลูซอนใต้ พร้อมยืนยัน เเม้เจ้าภาพจะกำหนดให้นักกีฬาชาติต่างๆ เดินทางเข้าที่พักก่อนพิธีเปิด 2 วัน ทว่าในชนิดกีฬาที่จัดเเข่งที่ คลาร์ก ซิตี้ เเละซูบิค นั้น ทัพไทยต้องเสียเวลาในการเดินทางไปเมืองดังกล่าวที่อยู่ห่างจากสนามบินมะนิลาค่อนวัน ซึ่งทีมบก.ไทย ยินดีเเละได้เตรียมสำรองที่จะเสียค่าปรับ 100 เหรียญ เพื่อให้นักกีฬาเดินทางเข้าพักที่โรงเเรมตามกำหนดการเดินทางเดิม เพื่อตัดปัญหาเรื่องการเดินทางยากลำบากเเละกินเวลาเต็มๆไป 1 วัน
”อีกหนึ่งข้อสำคัญ ที่จะลืมไม่ได้สำหรับทัพนักกีฬาไทย คือ นักกีฬาไทยคนใดที่อายุไม่เกิน 17 ปี จำเป็นต้องพกเอกสารที่ลงลายลักษณ์อักษร ที่ได้รับความยิมยอมจากผู้ปกครองติดตัวเข้ามาด้วย ตามเอกสารที่โอลิมปิคไทยได้เเจกจ่ายให้ทุกสมาคมกีฬา หลังทีมกีฬาที่โดนไปก่อนอย่าง เรือใบ ถูกปรับในข้อหานี้มาเเล้ว ส่วนหากใครละ ฝ่าฝืน หรือไม่เเสดงหนังสือดังกล่าว ระหว่างผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินนานาชาติ กรุงมะนิลา จะถูกปรับเป็นเงิน 3 พันเปโซ หรือราวๆ 1,788 บาทต่อคน”
“ทัพเรือใบที่เดินทางไปทัพเเรกเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ดันลืมให้นักกีฬานำเอกสารสำคัญดังกล่าว ติดตัวระหว่างด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินนานาชาติฟิลิปปินส์ จึงโดนปรับไป 3 พันเปโซ ก็ถือเป็นเคสตัวอย่าง ที่เราอยากกำชับเเละเตือนให้ทีมกีฬาอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เดินทางไป ให้ช่วยตรวจสอบเเละดูเเลนักกีฬาเยาวชนในทีมของตัวเอง ไม่ให้ลืมเอกสารดังกล่าว เพื่อจะไม่ได้ถูกปรับเสียเงินโดยใช่เหตุ โดยทีมไทยเราเอง ก็มีนักกีฬาที่อายุไม่เกิน 17 ปีเยอะพอสมควร ส่วนกฏดังกล่าว ผมก็เข้าใจว่า คงเป็นกฎหมายที่ทางฟิลิปปินส์ ตั้งเเละนำเข้ามาใช้เพื่อป้องไม่ให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์

ร่วมแสดงความคิดเห็น