เหล่ากาชาด จ.น่าน นำเครื่องชุดกันหนาว มอบให้เด็กนักเรียน

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงเรียนบ้านร่มเกล้า ตำบลน้ำพาง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน นางสุภาสินี งามธุระ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน และนางสุรางค์รัตน์ ณ ลำปาง หัวหน้าสถานีกาชาดชาดที่ 3 เชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ได้เดินทางมามอบเครื่องชุดกันหนาว มอบให้เด็กนักเรียน บ้านร่มเกล้า จำนวน 205 ชุด เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น จากนั้น คณะได้เดินทางไปที โรงเรียนบ้านน้ำตวง มอบชุดกันหนาวให้แก่เด็กนักเรียน รวม 249 ชุด และมอบให้เด็กนักเรียน โรงเรียนตำรวจลาดตระเวนชายแดน พีรยานุเคราะห์ 3 จำนวน 50 ชุด

นอกจากนี้ยังได้ มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับราชราษฎร ที่ประสบภัยหนาว จากสภาพภาวะอากาศที่หนาวเย็น ให้กับราชราษฎร์ในพื้นที่รวม 17 ครอบครัว และมอบเงินช่วยเหลือราษฎร์ ที่พิการที่ป่วยติดเตียง จำนวน 2 รายละ 2,000 บาท โดยมี ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอแม่จริม เป็นผู้รับมอบ และให้การต้อนรับ จากสภาพภาวะอากาศที่หนาวเย็น บริเวณภาคเหนือตอนบน ทำให้อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศเย็นถึงหนาวมาก ขอให้เด็กนักเรียนและประชาชน บริเวณบนดอยสูง ได้ดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด ตอนกลางคืนอุณหภูมิต่ำสุด 8 – 12 องศาเซลเซียส ทำให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล และราษฎร์ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดารได้รับผลกระทบจากภัยหนาว เป็นจำนวนมาก ซึ่งนักเรียน ในพื้นที่ยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะถุงเท้านักเรียน ที่เด็กนักเรียนใส่จนขาดจนเห็นหัวแม่เท้า และส้นเท้า
นางสุภาสินี งามธุระ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน กล่าวว่า ทางเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ได้ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 3 เชียงใหม่ จึงได้จัดกิจกรรมคลายหนาวขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ ให้แก่เด็กนักเรียน และประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกลความเจริญ โดยยึดหลักมนุษยธรรม ในการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ ได้อย่างทั่วถึงทั่ว โดยมอบชุดกันหนาวทั้งหมด จำนวน 933 คน อย่างละ 933 ชิ้นประกอบด้วย เสื้อกันหนาว หมวกไหมพรม ถุงเท้า นมเปี้ยว และขนม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความหนาวเย็น และเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร ให้มีสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเรียน และประชาชน ผู้ยากไร้ ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น