ไทยประสานความร่วมมืออินโดนีเซีย ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด

จากการที่สถานการณ์การผลิตและลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดยาเสพติดจากสารสังเคราะห์ ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทซึ่งก็คือ ยาบ้า และไอซ์ เพิ่มขึ้นในทุกประเทศ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง คือการที่ยังไม่สามารถควบคุมและปราบปรามการลักลอบค้า และลำเลียงเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดเข้าสู่แหล่งผลิ
ประเทศอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียน ก็ได้รับกระทบดังกล่าว ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณผู้เสพและการจับยึดได้ไอซ์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยังถูกเป็นเส้นทางลำเลียงผ่านยาเสพติดต่อไปยังประเทศที่สาม โดยที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ในฐานะผู้นำ (Lead Shepherd) ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงได้ริเริ่มขยายความร่วมมือด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดกับประเทศอินโดนีเซีย และนำมาสู่การประชุมทวิภาคีไทย-อินโดนีเซีย ด้านการควบคุมยาเสพติด ครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่าการประชุมทวิภาคีไทย-อินโดนีเซีย ด้านการควบคุมยาเสพติด ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2562 โดยสำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ณ โรงแรมเดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี จ.เชียงราย โดยมีเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และ Police Commissioner General Heru Winarko หัวหน้าหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดอินโดนีเซีย (National Narcotics Board: BNN) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนอินโดนีเซีย
การประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. แห่งราชอาณาจักรไทย และคณะกรรมการยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ และการใช้ยาในทางที่ผิด (MOU) อย่างจริงจัง รวมถึงการติดตามสถานการณ์ยาเสพติดของไทยและอินโดนีเซีย การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านยาเสพติด และการหารือกันถึงแนวทางความร่วมมือ และแผนงานที่จะดำเนินการร่วมกันในอนาคต ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของไทยและอินโดนีเซีย
สำหรับข้อสรุปในการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันหลายประเด็น และได้ยืนยันความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันต่อไปในอนาคต ทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมาย การป้องกันยาเสพติด การตรวจพิสูจน์สารเสพติด การพัฒนาบุคลากร และการพัฒนาทางเลือก เพื่อเพิ่มศักยภาพของไทย และอินโดนีเซีย ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม
การดำเนินงานในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้มีการประสานความร่วมกับทุกประเทศในการจัดการปัญหายาเสพติด และแนวทางของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เน้นให้ความสำคัญกับการดำเนินการเชิงรุก เพื่อสกัดกั้นเคมีภัณฑ์/สารตั้งต้น ไม่ให้เข้าไปยังแหล่งผลิต และไม่ให้ยาเสพติดจากแหล่งผลิตออกมาแพร่กระจายในประเทศ รวมถึงการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม

ร่วมแสดงความคิดเห็น