มอบนโยบาย ให้ผู้บริหารข้าราชการในสังกัด กรมป่าไม้ ในการเดินหน้าจัดสรรที่ดินทำกิน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุม nan warroom สำนักงานป่าไม้ จังหวัดน่าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เดินทางมามอบนโยบายให้ผู้บริหารข้าราชการในสังกัด กรมป่าไม้ ในพื้นที่จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน ในการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) โดยเห็นชอบให้ราษฎร์ อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าเป้าหมายใน 5 กลุ่ม รวม 5.9 ล้านไร่ ว่า การแก้ไขปัญหา การอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่า ไม่ได้เป็นการแจกป่าแต่เป็นการแก้ปัญหาประชาชนที่เข้าอาศัยในพื้นที่ป่าดำเนินการต่อเนื่อง โดยการให้ราษฎรถือครองในเขตพื้นที่ป่าเป็นวิธีการการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดและเกิดความยั่งยืน เพื่อตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน รวมทั้งการส่งเสริมให้ปลูกป่าเพิ่มขึ้น และห้ามบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1- 2 หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย และยกเลิก
หลัง มติครม. 30 มิ.ย. 2541 และต้องปฏิบัติตามคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิ.ย. 2557 กลุ่มที่ 3 ชุมชนในเขตป่าสงวนฯ ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 และชุมชนในเขตป่าสงวนฯ ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 หลัง มติครม. 30 มิ.ย. 2541 และต้องปฏิบัติตามคําสั่งคสช. ที่ 66/2557 กลุ่มที่ 4 ชุมชนที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ก่อน และ หลัง มติครม. 30 มิ.ย.2541 และกลุ่มที่ 5 ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ประกอบด้วย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่เมืองและสิ่งก่อสร้างถาวร โดยระยะเวลาตั้งแต่ 2541-2557 ในกติการะบุชัดเจนว่าจะต้องปลูกต้นไม้มากกว่าคนที่อยู่พื้นที่ลุ่มน้ำ 3,4,5 ร้อยละ 30-50 เพราะถือเป็นพื้นที่เป็นภูเขาลาดชัน ผู้อาศัยมีการโยกย้ายถิ่นฐานมากจากที่อื่น ซึ่งผู้ครอบครอง โดยที่รัฐบาล ยังสามารถผลักดันให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ป่าปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ส่วนพื้นที่เกษตรกรรม หากต้องการปลูกไม้มีค่า รัฐบาลจะส่งเสริมให้ปลูกด้วย ใครผิดเงื่อนไขต้องถูกยกเลิกสิทธิและดำเนินคดี ส่วนประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้ โดยที่จะไม่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม เพราะมีระบบข้อมูลที่ทำการสำรวจการถือครองสิทธิไว้แล้ว ซึ่งเป็นที่มาของการจำแนกออกเป็น 5 กลุ่มด้วย โดยกลุ่ม 1-3 เป็นของกรมป่าไม้ ส่วนกลุ่มที่ 4 เป็นของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชนอกจากนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ให้ นโยบาย เกี่ยวกับปัญหาในเรื่องของไฟป่า และปัญหาเรื่องของหมอกควัน และฝุ่นในภาคเหนือมาจากไฟป่า ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง ให้ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่กำลังประสบปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานรวมทั้งทรงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน โดยขอให้ทุกหน่วยงาน ร่วมบูรณาการ ในการดับไฟป่า เพื่อลดปัญของหมอกควัน ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

ร่วมแสดงความคิดเห็น