สาวนักท่องเที่ยว โพสต์รีวิว เต็นท์พักสุดห่วย ในเชียงใหม่ มีเชื้อราขึ้นเต็ม ยันไม่มีเจตนาโจมตี

วันที่ 1 ธ.ค. 62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ขณะนี้บนโลกโซเชียล ได้มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า “Wichuda Santes” ได้มีการโพสต์ภาพและข้อความซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่เจ้าตัวและเพื่อนรวม 12 คน ได้เดินทางมาท่องเที่ยว และได้มีการติดต่อเช่าเต็นท์ที่พัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของม่อนแจ่ม แต่ปรากฎว่าเต้นท์ที่พักนั้นพบว่ามีปัญหาเชื้อราขึ้นภายในเต้นท์เป็นสีดำ และสกปรกมาก จนทำให้ทางเจ้าตัวได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงในโซเชียล พร้อมทั้งระบุข้อความในพสต์ว่า “รีวิว ม่อนสายลม จ.เชียงใหม่ค่ะ เราได้จองเเบบเต้นท์ไป ให้ภาพเล่าเรื่องนะคะ นี่คือราคา 1,800 บาทค่ะ ไปมาเมื่อวันที่ 28 พย. 62 นี่แหละค่ะ ไม่ประทับใจเลย มีเต้นท์มากมายนะคะ ทีมเราไปกันหลายคน จองแบบเต้นท์ไป 5 หลัง เจอแบบเดียวกันค่ะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าดวงตก ดวงซวยอะไรจะปานนั้น ทั้ง 4 หลัง เราพบปัญหาเชื้อราเหมือนกัน ส่วนอีกหลังให้คนขับรถตู้ ไม่ได้ถามว่าเป็นแบบเดียวกันมั๊ยนะคะ. ล่าสุดได้แจ้งไปยังเพจที่พัก เค้าบอกว่า จะไปปรับปรุง ก็ได้แต่หวังว่า เค้าจะทำการปรับปรุงเต็นท์พวกนี้ได้ทันกับฤดูกาลท่องเที่ยวที่ คนจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปลายปีนะคะ รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกถึงมะเร็งปอดค่ะ ปล.เราจองล่วงหน้าไปเป็นเดือนค่ะ ซึ่งเราจองบ้านได้ 2 หลัง เพราะบ้านเต็มเเล้ว เราจึงแบ่งไปนอนเเบบเต็นท์ด้วย นั่นแหละค่ะทุกท่าน ปล.2 แอบดูเต็นท์อื่น มีแบบใหม่ๆ ด้วยค่ะ แต่ กก็มีแบบที่เราเจอด้วยก็มี เพราะสภาพคือรามันมากจนเห็นได้จากด้านนอก #ดีก็ว่าดีค่ะ #ม่อนสายลม #ปรับปรุงยังไม่สาย #อิหยังวะ” ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวปรากฎออกมานั้น ได้มีผู้พบเห็นต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์ข้อมูลกันไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์นี้ และได้พูดคุยกับทาง นายปรมินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของผู้โพสต์ ได้เปิดเผยว่า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ตนกับแฟน และเพื่อนๆ ได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้มีการวางแผนกันว่าจะไปท่องเที่ยวค้างคืนที่ม่อนแจ่ม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง และเห็นตามรีวิวต่างๆ ก็มีการแนะนำสถานที่พักจำนวนมาก จนกระทั่งมาเจอเพจของ ม่อนสายลม ที่ในรีวิวทำออกมาได้ดีมากจึงตัดสินใจทำการจองที่พักล่วงหน้าไว้ประมาณ 2 เดือน และได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่หลังทำงานเสร็จก็เข้าพักช่วงเย็นวันที่ 28 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา โดยตนกับแฟนและเพื่อนๆ ได้เช่าเต็นท์ทั้งหมด 5 หลัง และแบบบ้านพักอีก 2 หลัง โดยราคาเช่าเต็นท์ละ 1,800 บาท ส่วนบ้านหลังละ 2,000 บาท ซึ่งได้มีการชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่พอเข้ามาพักปรากฎว่ามีรอยเชื้อราขึ้นทั้งในเต็นท์และนอกเต็นท์ โดยภายนอกอาจจะมองเห็นว่าเชื่อราขึ้นไม่มากจะมีลักษณะเป็นจุดดำ แต่เมื่อเข้าไปภายในเต้นท์นั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจน มีราขึ้นเป็นสีดำทั่วทั้งเต็นท์ ทั้งยังมีกลิ่นอับ แต่สุดท้ายในวันนั้นก็ต้องทนนอนค้างคืนไป เนื่องจากที่พักเต็มทั้งหมด อีกทั้งไม่สามารถสอบถามอะไรได้ เนื่องจากพนักงานที่ดูแลก็เป็นลูกจ้างชาวเขา โดยต่อมาหลังจากที่ได้เข้าพักแล้วนั้นทางแฟนสาวก็ได้มีการติดต่อกลับไปยังเพจดังกล่าวด้วยการส่งข้อความไปแจ้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางเพจก็แจ้งเพียงว่าจะดำเนินการปรับปรุงเท่านั้น และไม่ได้มีการติดต่อกลับมาอีกเลย ส่วนการที่แฟนได้นำข้อมูลมาโพสต์ลงในโซเชียลนั้นก็ไม่ได้ต้องการจะโจมตีหรือก่อให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด แต่เพียงเพื่อต้องการเตือนประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเวลาไปเช่าพักในลักษณะนี้ควรมีการตรวจสอบให้ดีก่อน รวมไปถึงอยากให้ทางผู้ดูแลสถานที่ได้มีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่ามันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เนื่องจากราคาที่เช่าก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่เมื่อพักแล้วลูกค้ากลับไม่ได้รับความพึงพอใจ อีกทั้งการที่มีเชื้อราเกิดขึ้นนี้ก็คาดว่าไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นมา และคาดว่าน่าจะมีหลายคนที่เจอแล้ว แต่ไม่ได้มีการโพสต์ลงโซเชียลแบบนี้ จึงอยากให้ทางผู้ดูแลคำนึงถึงคุณภาพและความสะอาด เพื่อให้เกิดความพึงพอใจกับกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเรื่องราวนี้ปรากฎในโซเชียลแล้วนั้น ทางด้านเพจเฟสบุ๊คชื่อ ม่อนสายลม ม่อนแจ่ม ก็ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความเพื่อแสดงความรับผิดชอบแล้ว โดยระบุว่า “เรียนลูกค้าม่อนสายลมที่เคารพทุกท่านตามที่มีลูกค้าลงรีวิวว่าเต็นท์เราเป็นเชื้อรานั้นมีจริงเนื่องจากอากาศเย็นมีความชื้นสูงแต่เราไม่ได้ใช้แบบนี้ตลอดเรามีการเปลี่ยนใหม่ทุกปีที่มีเชื้อราตอนนี้ทางเราได้ทำการเปลี่ยนเต็นท์ใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ จึงเรียนให้ทุกท่านสบายใจได้ค่ะ” และนอกจากนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการท่องเที่ยวและสาธารณสุขก็ได้มีการรับทราบข้อมูล และเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบที่พักดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค. 62) เพื่อตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น