“โกเมธ” สุดเจ๋ง ผงาดทอง BMX เป็นเหรียญที่ 5 ให้ทัพสองล้อไทย ประกาศศักดิ์ศรี “เจ้าทองอาเซียน”

“โกเมธ” ปั่นสุดชีวิต ก่อนทำเวลาดีที่สุด ผงาดคว้าทองบีเอ็มเอ็กซ์ ไทม์ไทรอัล ในศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 อย่างงดงาม เจ้าตัวเผยเพิ่งลงแข่งซีเกมส์เป็นครั้งแรกในชีวิต ก็ได้เหรียญทองมาครองทันที ขอมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทุกคน วอนช่วยส่งแรงใจมาเชียร์ต่อไปเพราะยังมีแข่งอีก 1 รายการ ด้าน “โค้ชอัถร” บอกนักปั่นทำได้ตามแผนและไม่กดดัน เคล็ดลับคือ “แข่งให้เหมือนซ้อม ซ้อมให้เหมือนแข่ง” พร้อมชื่นชม “พลเอกเดชา” มองการณ์ไกลและวางแผนรอบคอบ ทำให้ทีมบีเอ็มเอ็กซ์ไทยประสบความสำเร็จ ขณะที่ “เสธ.หมึก” เผยทัพสองล้อไทยครองตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” จักรยานซีเกมส์แน่นอนแล้ว หลังโกยไป 5 เหรียญทอง ไม่มีชาติใดตามทันแน่ แม้เหลือชิงชัยอีก 1 ทองจากประเภทเรซซิ่ง ขอให้พี่น้องชาวไทยส่งแรงใจมาเชียร์กันมาก ๆ เหมือนเดิม
การแข่งขันจักรยาน ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่เมืองตาเกไตย์ ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. มีชิง 1 เหรียญทอง จากบีเอ็มเอ็กซ์ไทม์ไทรอัล โดยมี “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ไปให้กำลังใจนักกีฬาถึงขอบสนามเช่นเคย พร้อมอวยพรให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ สำหรับการแข่งขันรายการนี้ มีนักกีฬาชิงชัยทั้งหมด 7 คน โดยวิธีการแข่งจะปล่อยตัวนักกีฬาทีละคนตามแรงกิ้งของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ไล่จากต่ำสุดขึ้นไป ผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดจะได้เหรียญทอง ซึ่งทีมไทยส่งนักกีฬาชิงชัย 2 คน คือ “เอ้” นายโกเมธ สุขประเสริฐ นักปั่นจากสุพรรณบุรี และ “เบน” นายสิทธิโชค แก้วสีขาว นักปั่นจากกรุงเทพมหานคร
ผลปรากฏว่า โกเมธ นักปั่นเลือดสุพรรณ ทำเวลาดีที่สุด 32.038 วินาที คว้าเหรียญทองซีเกมส์ไปครองเป็นครั้งแรกในชีวิต และเป็นเหรียญทองที่ 5 ของทัพจักรยานไทย ได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐบาล 300,000 บาท และ สมาคมฯ อัดฉีดเพิ่มเติมอีก 100,000 บาท รวมเป็น 400,000 บาท ส่วนเหรียญเงิน โทนี่ ไซอารีฟุดดิน จากอินโดนีเซีย เวลา 32.560 วินาที ขณะที่เหรียญทองแดง เป็นของ สิทธิโชค เวลา 32.601 วินาที ได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐบาล 75,000 บาท และสมาคมฯ อัดฉีดเพิ่มอีก 30,000 บาท รวมเป็น 105,000 บาท
หลังการแข่งขัน “เอ้” โกเมธ ได้กล่าวเป็นสำเนียงเหน่อแบบคนสุพรรณบุรี ว่า “การได้เหรียญทองในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากครับ ผมสามารถนำเหรียญทองไปฝากเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่พ่อแม่พี่น้องชาวไทย และคนสุพรรณฯ ได้แล้ว วันนี้ทำเต็มที่จริง ๆ ขอขอบคุณชาวไทยทุกคนที่ช่วยส่งแรงใจมาเชียร์พวกเรา ขอบพระคุณท่านนายกสมาคมฯ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ส่งผมไปฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้มีการพัฒนาฝีมือตัวเองเพิ่มขึ้น ขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานฯ รวมทั้งผู้สนับสนุนของสมาคมฯ ทุกหน่วยงาน สตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่สอนผมมา”
“วันนี้ขี่แบบไม่กดดัน และทำตามที่โค้ชบอกทุกอย่าง คือขี่ให้เหมือนกับซ้อม สำหรับซีเกมส์ครั้งนี้ เป็นซีเกมส์แรกในชีวิตของผม และผมสามารถคว้าเหรียญทองได้ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก ส่วนคู่แข่งทั้งจากฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นนักกีฬารุ่นพี่ เขาเก่งมาก และมีประสบการณ์เยอะกว่าผม แต่ถึงแม้จะเป็นรุ่นพี่ ผมก็ไม่เคยกลัว แต่ก็ไม่ประมาท เมื่อทำได้สำเร็จก็ดีใจและภูมิใจมาก ๆ ครับ ผมยังเหลือการแข่งขันประเภทเรซซิ่ง อีก 1 รายการ ขอให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทยช่วยส่งแรงใจมาเชียร์กันมาก ๆ นะครับ ผมจะทำอย่างสุดความสามารถครับ” นักปั่นเลือดสุพรรณ กล่าว
ด้าน “เบน” สิทธิโชค กล่าวว่า ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ช่วยให้กำลังใจพวกเรามาโดยตลอด พวกเราทำได้ตามแผนที่โค้ชวางเอาไว้ทุกประการ ครั้งนี้ตนได้เหรียญทองแดง ก็จะพยายามฝึกฝนและพัฒนาฝีมือของตัวเอง เพื่อทำผลงานในการแข่งขันรายการอื่น ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ขอขอบพระคุณท่านนายกสมาคมฯ พลเอกเดชา, สมาคมกีฬาจักรยานฯ, สตาฟฟ์โค้ช และผู้ที่เกี่ยวข้อง สำหรับเหรียญรางวัลนี้ขอมอบให้แก่คนไทยทุกคน ส่วน “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย ผู้ฝึกสอนชาวไทย กล่าวว่า ก่อนแข่งตนเองได้บอกนักกีฬาว่าให้ทำอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกดดัน ไม่ต้องเครียด พยามคิดเสอมว่า เวลาแข่งก็ให้เหมือนซ้อม เวลาซ้อมให้เหมือนแข่ง ซึ่งทั้งโกเมธ และ สิทธิโชค ก็ทำได้ตามแผนทุกอย่าง จริง ๆ แล้วเราน่าจะได้ทั้งเหรียญทองและเหรียญเงิน เพราะสิทธิโชค แพ้นักปั่นอินโดนีเซียที่ได้อันดับ 2 แค่ 0.041 วินาทีเท่านั้น เรียกฉิวเฉียดมาก จากความสำเร็จในครั้งนี้ ขอบพระคุณท่านนายกฯ พลเอกเดชา เป็นอย่างสูง เพราะได้วางโปรแกรมให้นักกีฬาไปฝึกซ้อมและแข่งขันที่ประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งให้ความดูแลนักกีฬาเป็นอย่างดีในระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมในประเทศไทยตลอดทั้งปี ต้องขอยกย่องว่าท่านนายกฯ มองการณ์ไกลและรอบคอบมาก หากไม่มีท่านพวกเราคงไม่มีวันนี้แน่นอน
ขณะที่ พลเอกเดชา กล่าวว่า ขอขอบคุณนักกีฬาที่ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม ขี่ได้ตามที่โค้ชวางแผน จนกระทั่งคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง กับ 1 เหรียญทองแดง ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ช ทั้ง มร.อดัม แครี่ โค้ชชาวออสเตรเลีย และ นายอัถร ไชยมาโย โค้ชชาวไทย ที่วางแผนการแข่งขันได้เป็นอย่างดี ช่วงแรกที่ทีมบีเอ็มเอ็กซ์เดินทางมาถึงมืองตาเกไตย์ ต้องประสบปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง ปัญหาสำคัญคือเจ้าภาพไม่ให้ฝึกซ้อมในสนามจริง ซึ่งตนเองก็ได้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาไปจนเจ้าภาพอนุญาตให้ฝึกซ้อมได้
“เหรียญทองของ โกเมธ เป็นเหรียญทองที่ 5 ของทีมจักรยานไทย ถือว่าเกินเป้าหมายมาก จากที่เราตั้งเป้าเอาไว้ 2 เหรียญทอง นั่นเป็นเพราะเราทำงานกันอย่างหนัก มีการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมยังประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 1 เดือน ในส่วนของ โกเมธ ก็ได้ฝึกฝนฝีมืออยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะเดินทางสมทบไปฝึกกับเพื่อนร่วมทีมที่ออสเตรเลีย เสียดายที่ สิทธิโชค ทำเวลาแพ้นักปั่นอินโดนีเซีย ไปนิดเดียว ไม่เช่นนั้นเราก็คงจะได้เหรียญเงิน แต่นักกีฬาทำได้ขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ตอนนี้กีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ในเมืองไทยกำลังเป็นที่นิยม ในอนาคตน่าจะมีนักกีฬาเก่ง ๆ เกิดขึ้นอีกมาก” นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าว
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทีมจักรยานไทยทำได้ 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ผงาดเป็น “เจ้าเหรียญทอง” กีฬาจักรยานแน่นอนแล้ว แม้ยังเหลือการชิงชัยเหรียญทองสุดท้าย ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ในวันที่ 10 ธ.ค. อีก 1 เหรียญก็ตาม เนื่องจากชาติที่ได้เหรียญทองเป็นอันดับ 2 คือ ฟิลิปปินส์ ทำผลงานได้ 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ซึ่งก่อนแข่งซีเกมส์ เจ้าภาพหวังจะกวาดเหรียญทองให้หมด ถึงขนาดบรรจุรายการไทม์ไทรอัลเพิ่มขึ้นมาให้นักกีฬาของเขาโดยเฉพาะ แต่สุดท้ายนักปั่นไทยก็ประกาศศักดิ์ศรี และแสดงให้เห็นว่าเราคือ “เจ้าอาเซียน” ของจริง ขอให้พี่น้องชาวไทยทุกคนส่งแรงใจมาเชียร์นักกีฬากันเหมือนเดิม เพราะเรายังเหลือชิงอีก 1 รายการ ซึ่งอาจจะมีเหรียญทองที่ 6 กลับไปฝากเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยเพิ่มอีก 1 เหรียญก็เป็นได้
สำหรับการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ในประเภทเรซซิ่ง มีชิง 1 เหรียญทองในวันที่ 10 ธ.ค. เริ่มเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ทีมไทยส่ง 2 นักกีฬา ได้แก่ “เอ้” นายโกเมธ สุขประเสริฐ และ “ฮีม” นายสมคิด ฮาระตะวัน ลงชิงชัย

ร่วมแสดงความคิดเห็น