เชียงใหม่ เตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

​จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ วางมาตรการเข้มข้น เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
​วันนี้ (16 ธ.ค.62) ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานด้านความมั่นคง และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมทางไกลการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุทางถนน
ช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ 2563 ผ่านจอ VTC จากส่วนกลาง เพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติของรัฐบาล ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ซึ่งได้สั่งการให้ทุกจังหวัดนำแนวทางปฏิบัติงานไปใช้อย่างเข้มงวด เพื่อลดการเสียชีวิตของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาในการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาล ปีใหม่ให้มีความเหมาะสม โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการความปลอดภัยให้มีความตื่นตัวในการระวังการก่อวินาศกรรม จุดเสี่ยงต่างๆ เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า สถานีขนส่ง ท่าเรือ ย่านชุมชน และศูนย์การค้าที่เป็นพื้นที่จัดงานฯ ซึ่งจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
​ด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีการเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงประชาสัมพันธ์ (1 พ.ย.62 – 2 ม.ค.63) ช่วงเตรียมความพร้อม (1 – 26 ธ.ค.62) และช่วงควบคุมเข้มข้น (7 วันระวังอันตราย) (27 ธ.ค. 62 – 2 ม.ค. 63) ดำเนินการตามมาตรการหลัก 8 ด้านอย่างเข้มข้น
ทั้งด้านคน มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและจริงจัง ต่อเนื่อง ตามมาตรการ 10 รสชม. ด้านถนนและสภาพแวดล้อม ให้ตรวจสอบถนน ป้าย สัญญาณไฟ ให้ปลอดภัยตามหลักวิศวกรรมจราจร คืนพื้นผิวถนนก่อสร้างก่อนเทศกาล รวมไปถึงทางรถไฟ ให้แต่ละอำเภอตรวจสอบที่กั้นทางรถไฟให้เรียบร้อย ด้านยานพาหนะ ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะให้พร้อม พนักงานขับรถแอลกฮอลล์เป็น 0 และติดตั้ง GPS รถโดยสาร ด้านนักท่องเที่ยว ดูแลแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะดอย ทางน้ำ ดูแลความปลอดภัยท่าเรือ แพ โป๊ะ การช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ ให้เตรียมความพร้อมของกู้ชีพ กู้ภัย ด้านการสื่อสาร อุปกรณ์ บุคลากรการแพทย์ให้พร้อมอย่างทันทวงที
ด้านบริหารจัดการ ให้บูรณาการข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน วิเคราะห์การเกิดสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเชิงลึก และด้านท้องถิ่น ให้ดำเนินมาตรการ  “ด่านชุมชน”  อย่างจริงจังและเข้มงวด นอกจากนี้ยังให้จิตอาสา เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในลักษณะเคาะประตูบ้าน เพื่อแนะนำความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะด้วย
​สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย ได้บูรณาการจัดกำลังทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ทหาร ปกครอง และตำรวจ ที่จะร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อย 24 ชั่วโมง โดยจะมีการจังตั้งจุดตรวจบูรณาการ 47 จุด ด่านชุมชนครอบคลุม 2,066 หมู่บ้าน จุดตรวจตำรวจ 112 จุด และจุดรักษาความสงบของทหาร 6 เส้นทางสายหลักเข้าเมือง
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการพิเศษในการดำเนินการอย่างเข้มข้นกับอำเภอกลุ่มเสี่ยง ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง การออกประกาศห้ามรถโดยสารขนาดใหญ่ขึ้นดอยสำคัญ จำนวน 4 ดอย ได้แก่ ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง ดอยสุเทพ และดอยคำ มาตรการบังคับใช้กฎหมายตรวจจับด้วยกล้อง CCTV ให้ครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอ รวมไปถึงการใช้กล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ Speed Camera จำนวน 10 จุด บนถนนสาย 118 เชียงใหม่ – เชียงราย และถนนสาย 108 เชียงใหม่ – จอมทอง รวมถึงกล้องตรวจจับความเร็วแบบมือถือ จำนวน 16 ตัวทั่วจังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดตั้งจุดสกัด และชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าระงับเหตุเมื่อเกิดเหตุโดยทันที และกำหนดความเร็วของรถในเขตเทศบาลเป็นเขต Slow city โดยกำหนดความเร็วในพื้นที่ชั้นในคูเมืองเชียงใหม่ ไม่เกิน 40 กม./ชม.
​ ภาพ-ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น