รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผลักดันช่วยเหลือเกษตรกร

วันที่ 21 ธันวาคม 2562 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาประชุมหารือ และพบปะประชาชน กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคในจังหวัดเชียงราย ที่ฟาร์มโคขุน 4 x4 บ้านหนองสี่แจ่ง ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์พร้อมคณะ นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย ตลอดทั้ง หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร ให้การต้อนรับ
โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยอธิบดีกรมปศุสัตว์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมหารือร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือในจังหวัดเชียงราย เกี่ยวกับโครงการส่งเสริมให้แก่เกษตรกรให้มีอาชีพในช่วงหน้าแล้ง โดยมีการส่งเสริมให้เลี้ยงโค รวมถึงกระบือ แพะ แกะ และสัตว์ปีก
โดยโครงการนี้ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความเป็นห่วงเกษตรกรที่ทำการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง ในระยะ 4 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรโดยตรง ซึ่งกรมปศุสัตว์ ได้คิดโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งได้ส่งเสริมการเลี้ยงโคขุน ซึ่งเป็นการเลี้ยงโดยใช้น้ำทรัพยากรน้ำน้อย สามารถเลี้ยงได้ในฤดูแล้งได้ ทดแทนการทำเกษตรประเภทอื่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใช้เวลาเลี้ยงเพียงเเค่ 4 เดือน ก็สามารถจำหน่ายได้
ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวด้วยว่า โครงการช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งนี้ จะมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นผู้ปล่อยวงเงินกู้ให้แก่เกษตรกร ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ล้านละหนึ่งร้อยบาท ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่ถูก เป็นการแบ่งเบาภาระและช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรที่เลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ และสัตว์ปีก สามารถเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้ โดยมีเงื่อนไข ต้องทำในลักษณะจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน กลุ่มละอย่างน้อย 10 คนขึ้นไป และเขียนโครงการ เพื่อนำไปยื่นกู้ต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส โดยสามารถยื่นกู้ ใน 1 กลุ่มได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การเลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ และสัตว์ปีก นั้น เป็นการทำเกษตรที่ใช้น้ำน้อย และมีผลผลิตที่ราคาดี และสามารถแก้ปัญหาในช่วงภัยแล้งหรืออุทกภัยได้เป็นอย่างดี และในจังหวัดเชียงรายมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสามารถส่งออกสินค้าเกษตร ไปสู่ต่างประเทศได้ โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งมีความต้องการในสินค้าเกษตรด้านปศุสัตว์เป็นจำนวนมาก
ซึ่งในครั้งนี้ ได้มีกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสิบสองปันนา ได้มาดูงานการเลี้ยงโคขุน ของจังหวัดเชียงรายด้วย สำหรับเกษตรกรที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ และสัตว์ปีก สามารถติดต่อได้ที่ปศุสัตว์อำเภอ ปศุสัตว์จังหวัด เพื่อดำเนินการในการจัดทำแผน เพื่อยื่นกู้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น