อึ้ง! ที่ดินรกร้าง ปลูกกล้วยหวังลดภาษีที่ดินใหม่

ผู้บริหารท้องถิ่น ในเขตเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 มีนาคม 2562 และการจัดเก็บภาษีเดิมกำหนดว่าจะเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ต่อมามีการขยายเวลาชำระภาษีเป็นเมษายนถึงเดือนสิงหาคม 2563
โดยเจตนารมณ์เป้าหมายของกฎหมายนี้ คือ ยกเลิกภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งมีปัญหาราคาปานกลางไม่มีการปรับมานาน อัตราภาษีถดถอย มีการยกเว้นลดหย่อนมากไป ส่วนภาษีโรงเรือนและที่ดิน ก็มีฐานภาษีซ้ำซ้อนกับภาษีเงินได้ อัตราสูง เปิดทางเรื่องดุลยพินิจในการประเมินค่อนข้างสูง หมิ่นเหม่ต่อการแสวงหาประโยชน์ ที่สำคัญ คือ คาดหวังว่ารายได้จากกฎกติกาใหม่ จะทำให้มีรายได้สู่อปท.เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดิมทีก็จัดเก็บได้ร่วม ๆ 5-6 หมื่นล้านบาท

ผู้บริหาร อปท. ระดับ ทต.ในเขต อ.สันทราย เชียงใหม่ กล่าวว่า ผู้จัดเก็บภาษีคือ อปท.ไม่ว่าจะเป็น อบต., เทศบาล, กรุงเทพและเมืองพัทยา ส่วน อบจ.นั้นมีรายรับจากภาษีอื่น ๆ มากพอที่จะบริหารจัดการภารกิจตามอำนาจ หน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกแห่งอยู่แล้ว
อัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถ้าเป็นเกษตรกรรมอัตราเพดานอยู่ที่ 0.15 % ที่อยู่อาศัย 0.3 %และที่ดินรกร้างว่างเปล่านั้น เพดานอยู่ที่ 1.2 % มูลค่าที่ดินจะมีสัดส่วนอัตราจัดเก็บก้าวหน้า เช่น 0-50 ล้านบาท เก็บ 0.3 ถ้า 5 พันล้านบาทขึ้นไป เก็บ 0.7 และถ้าปล่อยให้ที่รกร้างว่างเปล่า มีอัตราเพิ่ม 0.3 ทุก 3 ปี

ประเด็นการจัดเก็บภาษีตามกฎกติกาใหม่นั้น แต่ละ อปท. มีศักยภาพ มีกลุ่มที่จะจัดเก็บแตกต่างกันแน่นอน และอปท.เล็ก ๆ ห่างไกล คงยากจะมีรายได้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสูตรใหม่ ยิ่งกลุ่มเจ้าของที่ดินจำนวนมาก หันมาใช้เทคนิคการปล่อยให้เช่าที่ ทำการเกษตร หรือแม้แต่ปลูกผลผลิตที่เห็น ๆ กันทั่ว ๆไป คือกล้วย ในที่ดินกลางเมืองติดถนนสายสำคัญ ๆ ในเชียงใหม่ มูลค่าที่มหาศาลดูแล้วไม่สมเหตุสมผล แต่เข้าเกณฑ์ กลุ่มเกษตรกรรม เริ่มมีเป็นจำนวนมากทั่วเมืองเชียงใหม่

ล่าสุดคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูป ทบทวน และแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร ได้นำ พ.ร.บ.นี้ เข้าพิจารณา เนื่องจากมีข้อร้องเรียนมากมาย
อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เพื่อให้การจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รอบคอบ ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรม รมว.มหาดไทย จึงเห็นชอบให้ขยายเวลาดำเนินการออกไป ไม่ใช่เป็นการเลื่อนระยะเวลาบังคับใช้กฎหมาย

แต่จะเป็นการให้เวลาผู้ปฏิบัติงานศึกษา ทำความเข้าใจในรายละเอียดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และในส่วนผู้เสียภาษี จะมีระยะเวลาเตรียมการชำระภาษี ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งการประเมินภาษี จาก อปท.เพิ่มขึ้น จากเดิมต้องเสียภาษีภายในเดือนเมษายน 2563 เป็นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม 2563 โดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม หากชำระภาษีภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว และจะมีระยะเวลาการผ่อนชำระภาษีไปจนถึงเดือนตุลาคม 2563

ร่วมแสดงความคิดเห็น