พะเยา ข้าวหนึกงาไรซ์เบอร์รี่ ขายดีสร้างรายได้งาม

หญิงวัย 48 ปี ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พะเยา นำภูมิปัญญาอาหารการกินโบราณ คือข้าวหนึกงา มาดัดแปลงเป็นข้าวหนึกงาไรซ์เบอร์รี่ ที่เป็นอาหารสุขภาพ ที่ในอดีตมักนิยมรับประทานในช่วงฤดูหนาว และใช้ข้าวเหนียวในการคลุกกับงาขี้ม่อน ซึ่งได้มีการปรับปรุงเป็นข้าวหนึกงาไรซ์เบอร์รี่ ที่มีทั้งแบบปิ้งอุ่นและกรอบ ขายสร้างรายได้เป็นอย่างดี

คุณเสาวลักษณ์ กำธรศิริพีระ หญิงสาววัย 48 ปี ในพื้นที่ ต.แม่ใส อ.เมือง จ.พะเยา กำลังทำการปิ้งย่างโดยวิธีอบข้าวหนึกงาไรซ์เบอร์รี่ ที่เขาทำออกจำหน่ายในช่วงเช้าของทุกวัน บริเวณท่าเรือวัดติโลกอราม อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีลูกค้าเดินทางมาอุดหนุนกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้าวหนึกงาของคุณเสาวลักษณ์นั้น จะมีความพิเศษแตกต่างจากข้าวหนึกงาจากที่อื่น ๆ และถือเป็นหนึ่งเดียวของ จ.พะเยา ที่นำข้าวหนึกงาซึ่งเป็นอาหารโบราณในอดีต มาดัดแปลงเป็นอาหารที่มีความทันสมัยและรักสุขภาพ

โดยคุณเสาวลักษณ์ เล่าว่า ตนเองขายข้าวหนึกงาดังกล่าวนั้น จากการที่ในอดีตข้าวหนึกงาที่เป็นอาหารพื้นบ้าน จะใช้ข้าวเหนียวเป็นส่วนผสม โดยผสมข้าวกับงาขี้ม่อน แต่ตนเองนั้นได้นำอาหารดังกล่าวมาทำการประยุกต์ โดยเน้นเรื่องสุขภาพ จึงได้นำข้าวไรซ์เบอร์รี่ มาเป็นส่วนผสมกับงาขี้ม่อนหรืองาดำดังกล่าวในพื้นที่ จากนั้นก็จะนำมาทำการปิ้งอบเตาของเตาอบขนมปังหรือชีทซึ่งในการทำข้าวหนึกงา นั้นก็จะมีการทำ 2 แบบด้วยกันคือ จะทำทั้งแบบกรอบและแบบนุ่ม ซึ่งแบบกรอบนั้นก็จะสามารถพกไปรับประทานเวลาไหนก็ได้ ในส่วนของแบบนุ่มนั้น ก็จะทำการปิ้งอบแบบสดๆและน้ำตาลที่ใช้นั้นก็จะเป็นน้ำตาลอ้อย ที่ไม่มีสารฟอกขาว จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าที่มีความรักสุขภาพ

ซึ่งตนเองนั้นจะจำหน่ายข้าวหนึกงา ในราคากระทงละ 20 บาท มี 4 ชิ้น ซึ่งตนเองนั้นจะใช้ใบตองห่อเป็นกระทง เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก นอกจากนั้นตนเองยังได้มีการพัฒนาจากข้าวหนึกงา เป็นกล้วยหนึกงาที่มีส่วนผสมของกล้วยและงาผสมกัน โดยในแต่ละวันนั้น ตนเองจะขายตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 6 โมงเช้าไปจนถึง 10 โมง ก็จะหมดทุกวัน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี

สัมภาษณ์ : คุณเสาวลักษณ์ กำธรศิริพีระ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 3 ต.แม่ใส อ.เมือง จ.พะเยา โทรศัพท์ 083-0451918

ร่วมแสดงความคิดเห็น