จิตอาสา จ.ลำปาง ร่วมทำแนวกันไฟรอบเขาดอยพระบาท ลดปัญหาหมอกควัน

พ่อเมืองลำปาง นำข้าราชการและประชาชนจิตอาสา จากทุกภาคส่วนในเขตพื้นที่ ร่วมประสานพลังทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม “จิตอาสาภัยพิบัติ” ช่วยกันลงแรงทำแนวกันไฟรอบบริเวณผืนป่าเขาดอยพระบาท-ม่อนพระยาแช่ รณรงค์สร้างจิตสำนึกหยุดพฤติกรรมการเผา

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นำทีมคณะผู้บริหารหน่วยงานองค์กรภาครัฐ พร้อมด้วยเหล่าบรรดาข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ ทั้งจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง มณฑลทหารบกที่ 32 ตำรวจภูธรจังหวัด กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประสานพลังกับหน่วยงานองค์กรเครือข่ายภาคเอกชนในชุมชนเขตท้องที่ นำกลุ่มพลังมวลชนจากชุมชนต่างๆ ในอำเภอเมืองลำปาง รวมจำนวนกว่า 200 คน ร่วมเป็นจิตอาสาภัยพิบัติ “เราทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ช่วยกันจัดอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบชุด ลงพื้นที่เดินเท้าเข้าป่าทำแนวกันไฟรอบบริเวณผืนป่าเขาดอยพระบาท-ม่อนพระยาแช่ ตั้งแต่บริเวณสถานีควบคุมไฟป่าพระบาท-ม่อนพญาแช่ ไปจนถึง บริเวณอ่างเก็บน้ำที่ 3 ด้านหลังศาลากลางจังหวัดลำปาง ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง โดยผืนป่าดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาง-แม่อาง และเป็นสถานที่ตั้งของวัดพระธาตุม่อนพระยาแช่ โบราณสถานเก่าแก่ของจังหวัด ที่มีพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ป่ากว้างกว่า 18,500 ไร่ โดยการทำแนวกันไฟก็เพื่อจะช่วยปกป้องพิทักษ์ผืนป่าในบริเวณพื้นที่แห่งนี้ เป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้า ก่อนจะมีผู้ไม่หวังดีแอบลักลอบเข้ามาจุดไฟเผา และอาจเกิดลุกลามสร้างความเสียหายให้แก่ผืนป่า รวมถึงวัดม่อนพระยาแช่ด้วย

โดยการรวมตัวทำกิจกรรมแนวกันไฟครั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดทีมวิทยากรผู้นำกลุ่ม ทำการชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่จิตอาสาถึงวิธีการทำแนวกันไฟที่ถูกต้อง ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกัน หรือชะลอไฟ ที่อาจจะลุกลามไปยังจุดอื่นๆ ได้ หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบเข้ามาลักลอบจุดไฟเผาป่า พร้อมได้จัดแบ่งกำลังจิตอาสาออกเป็นกลุ่มๆ แยกย้ายเดินเท้าเข้าไปในเขตพื้นที่ป่า กระจายกำลังช่วยกันทำแนวกันไฟตามจุดต่างๆ ขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร ให้ยาวต่อเนื่องและเชื่อมต่อถึงกันตลอดแนวผืนป่า รวมระยะทางกว่า 5 กม. โดยมุ่งหวังที่จะให้แนวกันไฟที่จัดสร้างขึ้น ได้เป็นแนวเขตป้องกันไฟป่าที่จะช่วยจำกัดพื้นที่การเผา กรณีเกิดการลักลอบเผาป่า เพื่อช่วยในการบรรเทาปัญหาลดมลพิษจากหมอกควัน อีกทั้งการทำกิจกรรมยังเพื่อเป็นการรณรงค์เชิงรุก ปลูกจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และชาวบ้านได้ตระหนักเห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ แหล่งต้นน้ำลำธาร เพื่อให้เกิดความรักความหวงแหนต่อทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น และร่วมเป็นจิตอาสาที่จะได้ช่วยกันสอดส่องดูแล ประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้กลุ่มผู้ที่อยู่อาศัยรอบบริเวณผืนป่าและประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เข้าใจ ตระหนักถึงปัญหาพิษภัยจากหมอกควันไฟป่า และหยุดพฤติกรรมการเผา

ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดลำปาง จากการรายงานของหน่วยงานในระดับพื้นที่ ยังพบว่าหลายอำเภอยังคงมีการลักลอบจุดไฟเผาป่ากระจัดกระจายอยู่ทั่วไป เฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเขตป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และบริเวณริมเส้นทางถนนหลวงแผ่นดิน แต่โดยส่วนใหญ่สถานการณ์ไม่รุนแรง เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบได้มีการเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง พร้อมเข้าทำการดับไฟทันทีที่มีเหตุรายงาน รวมถึงได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย ร่วมกับทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเข้าถึงประชาชนในทุกชุมชนพื้นที่ และให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวัง ตลอดจนได้ใช้มาตรการเข้มข้นเอาจริงกับผู้กระทำผิด ทำให้ปัจจุบันสถานการณ์หมอกควันในภาพรวมของจังหวัดลำปางยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยพบว่าในช่วงบ่ายวันที่ 12 มกราคม 2563 ค่าคุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์สีส้ม คือ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยสามารถวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้สูงสุดอยู่ที่ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และวัดค่าได้ต่ำสุด ที่ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ร่วมแสดงความคิดเห็น