พ่อเมืองเชียงรายการันตี “ปั่นเพื่อสุขภาพ” มีประชาชนแห่เข้าร่วมกว่า 3,000 คน ธุรกิจโรงแรมคึกคัก

“นายประจญ ปรัชญ์สกุล” พ่อเมืองเชียงราย การันตีมีประชาขนเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” มากกว่า 3,000 คนแน่นอน โดยสั่งการไปยังทุกอำเภอ ทุกหน่วยงาน ให้โหมประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัด ด้าน “พลเอกเดชา” ปลื้มกระแสตอบรับดี ส่วน “นางวันดี ราชชมภู” นายอำเภอแม่จัน เผยธุรกิจโรงแรมสุดคึกคัก ที่พักถูกจองเต็มเกือบหมดแล้ว พร้อมเชิญชวนนักปั่นไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในเชียงราย ทั้งวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก, สามเหลี่ยมทองคำ หรือไหว้พระขอพรที่วัดหมื่นพุทธ และสำนักสงฆ์บ้านลั้ว 14 หลังคา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

นายประจญ ปรัชญ์สกุล

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่ สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 ซึ่งจะประเดิมแข่งขันสนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 17-19 ม.ค. 63 ที่ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย รวมทั้งกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กับสมาคมกีฬาจักรยานฯ และเทศบาลตำบลท่าข้าวเปลือก จัดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 17 ม.ค. 63 ล่าสุด ทราบว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก

นางวันดี ราชชมภู

พลเอกเดชา กล่วว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ประสานงานกับ นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน และนายสุทิน กับปะหะ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าวเปลือก ทราบว่าทางจังหวัดเชียงรายมีการจัดประชุมหารือเตรียมความพร้อมในการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานถนน-เสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2563 สนามที่ 1 รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” มีกระแสตอบรับจากประชาชนในจังหวัดเป็นอย่างดี ทำให้ยอดผู้ลงทะเบียนเพื่อมาร่วมกิจกรรมมากกว่า 3,000 คนแล้ว

ด้าน นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน เปิดเผยว่า ทางจังหวัดเชียงราย ได้เตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายประจญ ปรัชญ์สกุล ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่งในจังหวัดเชียงราย มาร่วมประชุมและวางแผนการจัดการแข่งขัน เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุดในทุก ๆ ด้าน ซึ่งท่านอยากให้มีประชาชนมาเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” กันมาก ๆ เพราะว่าจังหวัดเชียงราย เป็นเมืองแห่งการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sport tourism) การพัฒนากีฬาเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดของจังหวัดเชียงราย ในการพัฒนาคุณภาพประชากร ทั้งในด้านสุขภาพพลานามัยและด้านจิตใจ โดยในส่วนของอำเภอแม่จัน ได้รับการยืนยันจากตำบลต่าง ๆ ว่าจะมีนักปั่นเข้าร่วมประมาณ 3,200 คน ยังไม่รวมกลุ่มนักปั่นจากอำเภออื่น ๆ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีมาก รับประกันว่าบรรยากาศกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ครั้งนี้จะคึกคักกว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา

นางวันดี กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการประชาสัมพันธ์ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ส่งหนังสือไปยังทุกอำเภอ ทุกหน่วยงานเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบว่าจังหวัดชียงราย จะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาจักรยานรายการสำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพที่ดี อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัด ล่าสุด มีรายงานจากชมรมธุรกิจโรงแรมที่พัก จังใหม่เชียงราย ว่าโรงแรมภายในจังหวัด เต็มเกือบหมดแล้ว เพราะมีบรรดานักปั่น และนักท่องเที่ยวต่างจับจองห้องพักในช่วงที่มีการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ทางจังหวัดก็ได้ขอให้ผู้ประกอบการควบคุมมาตรฐานการบริการ อำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้แก่แขกผู้มาเยือนเป็นอย่างดี ห้ามขึ้นราคาห้องพักอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือป็นอย่างดี

นายอำเภอแม่จัน กล่าวต่อไปว่า จังหวัดเชียงราย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี่ 13 ชีวิต ไปติดอยู่ในถ้ำ จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก รวมทั้งสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งอยู่ในอำเภอแม่สาย ส่วนในอำเภอแม่จัน ก็มี เวียงหนองหล่ม (ล่ม) หรือเกาะแม่ม่าย แหล่งท่องเที่ยวที่มีตำนานเล่าขานมาอย่างยาวนาน ซึ่งเวลานี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด กำลังระดมกำลังพัฒนาให้น่าท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักมากขึ้น สำหรับตำบลท่าข้าวเปลือก ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น วัดหมื่นพุทธ ซึ่งเป็นวัดจีน นักกีฬาจักรยานสามารถไปกราบไหว้ขอพรจากพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ หรือ พระสหัสสหัตถสหัสสเนตร (พันมือพันตา), พระศรีอาริยเมตไตรย องค์ใหญ่ที่สุดในโลก หรือจะไปกราบพระเจ้าสิงห์ 1 เป็นพระพุทธรูปหน้าตัก 39 นิ้ว ซึ่งแกะจากหินแร่เหล็กไหล ที่สำนักสงฆ์บ้านลั้ว 14 หลังคา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมทั้งไปเที่ยวตามดอยต่าง ๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงามตระการตาทุกแห่ง รับรองว่าประทับใจแขกผู้มาเยือนแน่นอน

สำหรับกำหนดการแข่งขันและกิจกรรมต่าง ๆ มีดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 16 ม.ค. 63 เวลา 09.00-12.00 น. การอบรมผู้ตัดสินขั้นพื้นฐาน เวลา 13.00-15.00 น. การอบรมผู้ช่วยผู้ตัดสินในกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลท่าข้าวเปลือก, วันศุกร์ที่ 17 ม.ค. 63 กิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” เวลา 05.00-09.30 น. ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง ระยะทาง 10.68 กม., เวลา 08.00 น. เป็นพิธีเปิดการแข่งขัน และการแข่งขันจักรยานถนน ไทม์ไทรอัล เริ่มสตาร์ทและเข้าเส้นชัยบริเวณหน้าดอยม่อนกระถาง ไปตามทางหลวงชนบทหมายเลข 1063 ระยะทางไป-กลับรอบละ 10 กม. โดยรุ่นทั่วไปชาย, รุ่นทั่วไปหญิง, รุ่นเยาวชนชาย, รุ่น 30-39 ปีชาย, รุ่น 40-49 ปีชาย ปั่น 3 รอบ ระยะทาง 30 กม. ส่วนรุ่นเยาวชนหญิง, รุ่นยุวชนชาย, รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไปชาย ปั่น 1 รอบ ระยะทาง 10 กม.

วันเสาร์ที่ 18 ม.ค. แข่งขันจักรยานถนน โร้ดเรซ จุดสตาร์ทและเส้นชัย บริเวณหน้าดอยม่อนกระถาง ไปบนทางหลวงชนบทหมายเลข 1063 และหมายเลข 1004 ระยะทางรอบละ 7.1 กม. เริ่มปล่อยตัวนักกีฬา เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ส่วนวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. 63 แข่งขันจักรยานเสือภูเขา ครอสคันทรี่ ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง คลาส A ระยะทางรอบละ 4.82 กม., คลาส B ระยะทางรอบละ 4.57 กม. และคลาส C ระยะทางรอบละ 3.18 กม. เริ่มเวลา 09.00 น. ส่วนการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา ดาวน์ฮิล ที่วัดหมื่นพุทธ เส้นทางแข่งขันยาวประมาณ 1.5 กม. รอบจัดอันดับเริ่มเวลา 09.00 น. และรอบชิงชนะเลิศเริ่มเวลา 14.00 น. โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถ่ายทอดสดให้ชม 2 ชั่วโมงเต็ม ตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น.

ทั้งนี้ นักกีฬาที่จะสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานถนน เฉพาะประเภทไทม์ไทรอัล เข้าไปสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) ส่วนประเภทโร้ดเรซ สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ หรือสมัครที่หน้างานได้จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. 63 สำหรับเสือภูเขา ทั้งครอสคันทรี่ และดาวน์ฮิล สมัครผ่านเว็บไซต์ หรือสมัครที่หน้างานได้จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. 63 ขณะที่กิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” เปิดให้ลงทะเบียน ที่จุดรับสมัครตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันศุกร์ที่ 17 ม.ค. 63

อนึ่ง สำหรับนักกีฬาที่สมัครในประเภทแข่งขัน จะต้องทำบัตรอนุญาตแข่งขัน (License) ประจำปี 2563 ส่วนประเภทท่องเที่ยว หากมีความประสงค์จะทำบัตรก็สามารถทำได้เช่นกัน (ไม่บังคับ) โดยเข้าไปลงทะเบียนทำบัตรได้ที่ www.thaicycling.or.th/regislicense/index หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2

ร่วมแสดงความคิดเห็น