ข่าวแบ่งตามจังหวัด ทั่วไทย สังคม แพร่18 ม.ค. 6319 ม.ค. 20pearsaralee องค์กรครูทั่วประเทศแต่งดำ! ค้านไม่ให้ศึกษานิเทศก์ ตรวจสอบภายในและไอซีซีไปอยู่กับศึกษาธิการจังหวัด 18 ม.ค. 63 เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 17 มกราคม 2563 ที่กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มศึกษานิเทศก์ (ศน.) บุคลากรกลุ่มตรวจสอบภายใน (ตสน.) และบุคลากรกลุ่มเทคโนโลยีและสารสนเทศทางการศึกษา (ICT) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ กว่า 1,000 คน แต่งชุดดำเข้ายื่นหนังสือ ถึงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) นายวราวิทย์ กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างของศธ. นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดศธ. และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อ คัดค้าน การถ่ายโอนศึกษานิเทศก์(ศน.) บุคลากรกลุ่มตรวจสอบภายใน (ตสน.) และบุคลากรกลุ่มเทคโนโลยีและสารสนเทศทางการศึกษา (ICT) ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) และไปปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) โดยนายธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1) ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) กล่าวว่า สมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย สมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประเทศไทย และชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ชมรมศึกษานิเทศก์แห่ประเทศไทย ตลอดจนพี่น้องบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค(2) ไม่เห็นด้วยในการโอนย้ายและจะขอคัดค้านจนถึงที่สุด เพราะข้อเสนอดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยขาดหลักธรรมมาภิบาล อาศัยอำนาจของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของศธ. ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้บริหารองค์กรหลัก ไม่มีผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย หรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมพิจารณาและข้อเสนอแนวทางนี้ เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ต้องการทำลายเขตพื้นที่การศึกษา ให้อ่อนแอ เพื่อไปสร้างความเข้มแข็งให้กับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) โดยข้อเท็จจริง คุณภาพการศึกษาจะบังเกิดผลได้ก็โดยการปฏิรูปการเรียนการสอนในห้องเรียน เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่โดยตรงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่กำกับติดตาม ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการปฏิรูปการเรียนการสอนในห้องเรียน และสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษาในสังกัด ให้มีคุณภาพตามมาตรการศึกษาชาติโดยมี ศึกษานิเทศก์ และกลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้รับผิดชอบร่วมกันโดยตรง ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้ถ้าคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของศธ.ในภูมิภาค ให้ความเห็นชอบ ก็คือความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงของการปฏิรูปการศึกษาที่จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยได้มีข้อเสนอในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสพท. 7 ข้อ ข้อที่ 1 ขอให้นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดศธ. ยุติบทบาทการจัดทำข้อเสนอปรับโครงสร้าง ขอให้รอจนกว่า ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ จะมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เพื่อป้องกัน การดำเนินการที่ส่อไปในทางที่สร้างความอ่อนแอให้กับสพท. 2. การปฏิรูปโครงสร้างของศธ.ให้ใช้รูปแบบกระจายอำนาจถึงหน่วยงานการศึกษาในพื้นที่ให้มากที่สุดให้คงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)และเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)จำนวน 183 เขต และเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 77 เขต รวม 260เขตพื้นที่ โดยไม่มีการโอนย้ายกลุ่มใด ไปยังหน่วยงานการศึกษาอื่น 3. จัดตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)ประจำสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และตั้ง อ.กค.ศ.จังหวัด โดยให้รับผิดชอบการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานการศึกษาในเขตพื้นที่ฯ 4. เร่งดำเนินการออกพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5 ) เป็นการเฉพาะกิจ โดยให้มีสาระสำคัญให้แก้ไขปรับปรุงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 16/2560 และคำสั่งคสช ที่ 17/2560เฉพาะ 5.กำหนดให้บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 39ค(2) ให้เป็นข้าราชการครูสายงานสนับสนุนการสอนและให้ใช้บัญชีเงินเดือน เงินวิทยฐานะ หรือเงินคำตอบแทนอื่น เช่นเดียวกันกับข้าราชการครูสายงานการสอน 6. ให้รีบประกาศจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)ให้ครบทุกจังหวัดโดยเร็ว และ 7. เพื่อลดความสูญเปล่าทางการศึกษาจึงเห็นควรให้ศึกษานิเทศก์ ศธจ. กลับคืนสพท. ทั้งนี้จะได้มาช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษา นอกจากนั้นยังข้อเสนอที่จะยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายกรัฐมนตรี มีจำนวน 3 ข้อ ลงวันที่ 17 ม.ค.2563 ดังนี้ เรื่อง การคัดค้านการตัดโอนอัตรากําลังศึกษานิเทศก์ หน่วยตรวจสอบภายในและกลุ่มส่งเสริมทางไกล เทคโนโลยสีารสนเทศและการสื่อสาร ของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้สํานักงานศึกษาธิการจังหวัด 1. เหตุผลและความจําเป็นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ต้องมีศึกษานิเทศก์ บุคลากรหน่วยตรวจสอบภายใน และบุคลากรกลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) จํานวน 1 ชุด 2.ข้อเสนอการสร้างความเข้มแข็งใหก้ับสํานักงานเขตพื้นทกี่ารศึกษาเพื่อพัฒนาสถานศึกษาใน สังกัดให้มีคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาที่ยงั่ ยืน จํานวน 1 ชุด 3. บัญชีรายชื่อผู้คัดค้านการโอนศึกษานิเทศก์ บุคลากรของหน่วยตรวจสอบภายใน และบุคลากร ของกลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลเทคโนโลยสีารสนเทศและการสอื่สารของสํานักงานเขต พื้นที่การศึกษา ไปสังกัดสํานักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)จํานวน 1 ชุด ตามที่สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 02137/220 ลงวันที่ 7 มกราคม2563เรื่องขอข้อมูลอัตราตําแหน่งศึกษานิเทศก์และตําแหน่งนักวิชาการตรวจสอบภายใน จาก สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อขออนุมัติโอนอัตราตําแหน่งและเงินงบประมาณแผ่นดินประจํา อัตรา รวมตลอดทั้งงบบุคลากรที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน ค่าจ้างประจํา และเงินอื่นที่เกี่ยวข้อง ของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตําแหน่งศึกษานิเทศก์ และตําแหน่งนักวิชาการตรวจสอบภายใน จากสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ปฏิบัติงานในภูมิภาค มาไว้ที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้ไปปฏิบัติ หน้าที่ณสํานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อเสนอให้กรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษา ในภูมิภาค ให้ความเห็นชอบในการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2563 ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ สมาคมนักบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย สมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาแห่ง ประเทศไทย สมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่มัธยมศึกษาประเทศไทย และชมรมผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเครือข่ายศึกษานิเทศก์และบุคลากรทางการศึกษา38ค(2)ในฐานะผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย ไม่เห็นด้วยที่สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จะจัดทําข้อเสนอให้คณะกรรมการขับเคลื่อน การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ให้ความเห็นชอบโดยมีเหตุผลพอสังเขป ตามเอกสารสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ในระหว่างการจัดทําข้อเสนอโครงสร้างของ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นหน่วยงานการศึกษาที่มีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการบริหารจัดการศึกษาสถานศึกษาในสังกัด ให้มีคุณภาพ แต่เนื่องจากมีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ ที่ 19 / 2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค บังคับใช้ ได้ส่งผลให้ ศักยภาพการบริหารจัดการศึกษา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีข้อจํากัด สมาคมนัก บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย พร้อมเครือข่าย จึงได้จัดทําข้อเสนอการสร้างความเข้มแข็ง ให้กับ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อพัฒนาสถานศึกษาในสังกัดให้มีคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาที่ยั่งยืน ให้ท่าน ได้โปรดพิจารณาต่อไป ร่วมแสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็น