ลำปาง จัดงานแสดงแสง สี เสียง รำลึกประวัติศาสตร์ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”

จ.ลำปาง เดินหน้าส่งเสริม ปลูกจิตสำนึกเคารพเทิดทูนสถาบันและรักชาติ แก่ประชาชนในพื้นที่ จัดงานแสดงแสง สี เสียง รำลึกประวัติศาสตร์ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”

สำนักงานจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง และเทศบาลตำบลเกาะคา จัดกิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง ย้อนอดีตรำลึกประวัติศาสตร์ชาติไทย สืบสานตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เล่าขานเรื่องราววีรกรรมอันกล้าหาญ ในการกอบกู้เอกราชสร้างบ้านแปงเมือง เมื่อครั้งในอดีตที่ผ่านมา ของบรรพกษัตริย์ชาตินักรบ ซึ่งการแสดงได้จัดให้มีขึ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง ที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

โดยมี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานพิธีเปิดการแสดงอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางความสนใจของพี่น้องประชาชนชาวลำปาง ที่ได้เดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆ ทั้งในเขตท้องที่อำเภอเมือง เกาะคา สบปราบ เสริมงาม และห้างฉัตร รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศจำนวนมาก เข้าร่วมรับชมการแสดง แสง สี เสียง กันอย่างเนืองแน่นจนเต็มพื้นที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ

สำหรับการแสดง แสง สี เสียง ดังกล่าว เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งในโครงการ “ปลูกจิตสำนึกการเคารพเทิดทูนสถาบัน สร้างความสามัคคีปรองดอง และส่งเสริมการปฏิบัติตามค่านิยมหลัก 12 ประการ” ของจังหวัดลำปาง ซึ่งได้จัดทำขึ้น เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐในการขับเคลื่อนปลูกฝังแนวคิดสร้างทัศนคติค่านิยม ปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนคนไทย ได้รู้รักสามัคคี มีความสมานฉันท์ ปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยึดมั่นอยู่ในหลักศีลธรรมอันดี และให้ได้นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อร่วมเป็นพลังช่วยกันพัฒนาสร้างประโยชน์สุขให้เกิดแก่สังคม เพื่อจะได้นำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญทัดเทียม กับอารยประเทศได้ในอนาคต

โดยในการแสดง แสง สี เสียง ได้มีการนำเทคนิคพิเศษมาร่วมใช้ในการนำเสนอ ผ่านตัวละครนักแสดงกว่า 100 ชีวิต เพื่อร้อยเรียงเรื่องราวต่างๆ ไปตามช่วงกาลเวลา บอกเล่าความเป็นมาของอดีตจากตำนานเล่าขานทางประวัติศาสตร์ ที่ได้ผ่านพ้นมานานหลายร้อยปี ในการกอบกู้เอกราชสร้างบ้านแปงเมืองของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งการนำเสนอได้มีการเล่าเรื่องราวสำคัญเริ่มตั้งแต่ในสมัยพระนางจามเทวี สร้างเมืองอาลัมพางค์นคร และได้ดำเนินเรื่องราวต่อเนื่อง จนถึงสมัยดินแดนล้านนาไทยถูกรุกราน ได้รับความเดือดร้อนจากการรังควาญของพม่า

ราษฎรมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก อาหารการกินขาดแคลน ทรัพย์สมบัติ เรือกสวนไร่นาถูกพม่าริบ ชายฉกรรจ์ถูกเกณฑ์ไปทำศึกสงคราม ชาวบ้านถูกกดขี่ข่มเหงมากมาย จนกาลเวลาล่วงเลยสู่ยุคสมัยดินแดนกรุงศรีอยุธยา ชาติไทยต้องสูญเสียเอกราชเป็นเมืองขึ้นให้แก่พม่า จนในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 หรือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ได้ทรงกอบกู้เอกราชกลับคืนให้กับชาติไทย ด้วยการกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะ ต่อพระมหาอุปราชาแห่งพม่า นับเป็นวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ที่ได้เลื่องลือไปไกลทั่วทุกสารทิศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น