สธ.ยกระดับเฝ้าระวังรับมือ “โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่” ช่วงเทศกาลตรุษจีน

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลให้สถานพยาบาลทุกแห่ง ปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุด ยกระดับการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ช่วงตรุษจีน ประสานกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยว แจ้งบริษัททัวร์เฝ้าระวัง ดูแลนักท่องเที่ยวที่มาไทย

วันที่ 22 มกราคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกล กรณี “โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ตามมาตรฐานสูงสุดที่ใช้สำหรับโรคติดต่ออุบัติใหม่ พร้อมยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อตอบโต้สถานการณ์เป็นระดับ 3 รวมทั้งเพิ่มระบบการคัดกรองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในสนามบินทั้ง 5 แห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วยทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน มีระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว จัดทีมแพทย์พยาบาลและบุคลากรที่ผ่านการอบรมในการวินิจฉัยโรค ตรวจทางห้องปฏิบัติการทราบผลใน 24 ชั่วโมง จัดให้มีแนวทางการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานสากล พร้อมประสานกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งบริษัททัวร์เฝ้าระวังดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งที่เดินทางมาในประเทศไทยและคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ

สำหรับสถานการณ์ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3-21 มกราคม 2563 คัดกรองไปแล้วจำนวน 123 เที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 19,480 ราย โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย ที่ได้รับการตรวจยืนยัน แพทย์ได้ให้การรักษาหายและส่งกลับประเทศแล้ว ในรอบสัปดาห์นี้พบผู้ป่วยอีก 2 รายรายแรกเป็นหญิงไทยมีประวัติไปเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น รับการตรวจรักษาที่ รพ.นครปฐม ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนรายที่ 2 เป็นนักท่องเที่ยวจีนเป็นผู้ชาย ถูกตรวจคัดกรองมีไข้สูงที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563 ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าระบบการแพทย์และสาธารณสุขของไทยมีความทันสมัย พร้อมรับมือสถานการณ์ แม้เป็นเชื้อที่พบใหม่ ขณะนี้ไทยยังไม่มีรายงานการติดจากคนสู่คน เรามีการเฝ้าระวัง คัดแยกคนเข้าเมือง มีระบบการติดตามผู้สัมผัส ทั้งคนขับรถ แพทย์ พยาบาล คนเข็นเปล สำหรับผู้ป่วย 2 รายใหม่ที่พบ หากผลแล็บไม่พบเชื้อตรงกันทั้ง 2 แห่งก็จะให้กลับบ้านได้” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ไทยได้ดำเนินการทุกมาตรการตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก และได้รับคำชื่นชมว่ามีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส รวมทั้งยกย่องให้เป็นต้นแบบการให้ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนรู้และเข้าใจสถานการณ์ รู้จักป้องกันตนเอง ไม่ตื่นตระหนก ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยในเย็นวันนี้จะมีประชุมทางไกลด่วน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระชับมาตรการรับมือโรค กับองค์การอนามัยโลกและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังผู้ป่วยทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน ตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด เช่น สอบสวนโรค คัดกรอง และเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ สำหรับพื้นที่ที่มีสนามบินและจังหวัดท่องเที่ยว ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มระบบการคัดกรองที่รวดเร็วในสนามบินทั้ง 5 แห่ง และดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด จัดระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว ให้มีการรายงานระบบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และทันทีที่พบผู้ป่วย โดยให้ประสานงานกับ EOC ทุกระดับ ขอให้ปรึกษาส่วนกลางเพื่อการให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับประชาชนขอให้ระมัดระวังการติดเชื้อระหว่างที่เดินทางไปต่างประเทศ ดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่มีชีวิต หลีกเลี่ยงที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม หรือมีน้ำมูก สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ กินอาหารปรุงสุกร้อน ผู้ที่มีอาการไข้ กับอาการ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ และมีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ให้รีบไปโรงพยาบาล พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป สงสัยสอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ร่วมแสดงความคิดเห็น