ปี 2019 เป็นปีที่โลกร้อนขึ้นประมาณ 1.1 องศา เมื่อเทียบกับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้น มีผลต่อพื้นที่ทั่วโลกแตกต่างกันไป เป็นปีที่โลกได้ส่งสัญญาณเตือนเราในรูปแบบของภัยพิบัติครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า พายุ สภาพอากาศที่แปรปรวน ตลอดจนฝุ่น PM 2.5 ที่ยังคงมีผลต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
วันนี้เชียงใหม่นิวส์ได้รวบรวมเหตุการณ์ภัยพิบัติใน ปี 2019 มาให้ได้ทราบกันว่ามีเหตุการณ์ภัยพิบัติใดบ้างที่ธรรมชาติกำลังส่งสัญญาณเตือนมนุษย์ให้หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมกันสักที
1.สภาพอาการแปรปรวน หนาวสุด ร้อนสุด เป็นประวัติการณ์
1.1 อเมริกาเหนือหนาวจนกัดกระดูก จากเหตุการณ์ ‘Polar Vortex’ หรือกระแสลมวนในขั้วโลกเหนือ อุณหภูมิดิ่งไปถึงติดลบ 30 องศาเซลเซียส จนแม่น้ำหลายเส้นกลายเป็นน้ำแข็ง และชาวอเมริกัน 50 รายถูกหามส่งโรงพยาบาลในชิคาโกเพราะเนื้อเยื่อถูกทำลาย
1.2 ออสเตรเลียเจออากาศร้อนชนิดทำลายสถิติร้อนที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง อุณหภูมิสูงพรวดถึง 49 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดไฟป่าขนาดใหญ่หลายจุดบนเกาะแทสมาเนีย
1.3 ยุโรปเจอกับคลื่นความร้อนที่ผิดปกติ ฝรั่งเศสเจอร้อนที่สุด 45.9 องศา ใกล้เคียงกับเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์
1.3 เมืองมิตริบาห์ ประเทศคูเวต อุณหภูมิพุ่งทะลุ 63 องศาเซลเซียส
2.น้ำท่วมใหญ่ทำลายสถิติ
2.1 อิหร่านที่เคยแห้งแล้งก็เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั้งประเทศในรอบประวัติศาสตร์
2.2 จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทยประสบกับปัญหาอุทกภัย แม่น้ำโขงสูงกว่าตลิ่งถึง 2.21 เมตร
2.3 ‘เวนิส’ ประเทศอิตาลี น้ำท่วม ระดับน้ำถึง 187 เซนติเมตร ทำลายสถิติน้ำท่วมสูงที่สุดในรอบ 50 ปี
F
3.พายุโหมกระหน่ำตลอดปี
3.1 พายุปาบึก พัดเข้าภาคใต้ของประเทศไทย มีความรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี
3.2 พายุไซโคลนที่ชื่อว่า Idai ในประเทศโมซัมบิก, มาลาวี, ซิมบับเว และมาดากัสการ์ เป็นพายุที่แทบจะใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแอฟริกาตะวันออก
3.3เกิดพายุไซโคลน Fani แรงในระดับ 4 เข้าที่อินเดีย และบังกลาเทศ ซึ่งเป็นพายุที่แรงสุดในรอบ 20 ปี
3.4 เกิดพายุทอร์นาโดที่เปลี่ยนไปในสหรัฐอเมริกาฯ เพราะเพียงแค่ 13 วัน เกิดพายุทอร์นาโดในสหรัฐอเมริกาฯ
ถึง 374 ครั้ง จากปกติที่เคยเกิดขึ้นเฉลี่ยเพียง 100 ครั้งในช่วงเวลาเท่ากัน
3.5 พายุเฮอริเคน Dorian ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศบาฮามาส ความรุนแรงอยู่ถึงระดับ 5 อยู่นานถึง 24 ชั่วโมง
3.6 พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ที่มีความรุนแรงระดับ 5 ความเร็วลมสูงสุด 252 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งได้ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก เคลื่อนตัวใหญ่ยักษ์ที่ใหญ่กว่าประเทศญี่ปุ่นขึ้นชายฝั่งทางด้านตะวันตกของกรุงโตเกียว
3.7 พายุไต้ฝุ่น Kammuri พัดเข้าที่ประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก แต่บางพื้นที่ก็แล้งมากจนทำให้น้ำตกวิกตอเรีย ซึ่งเป็นน้ำตกในประเทศแซมเบีย และซิมบับเวแห้งเหือดจนไม่เหลือน้ำ
4.ไฟป่า
4.1 เหตุการณ์ไฟป่าขั้วโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นอลาสก้า กรีนแลนด์ และไซบีเรีย ทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 50 ล้านตัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ภาวะโลกร้อนยิ่งทวีขึ้น
4.2 ไฟไหม้ป่าแอมะซอน ในประเทศบราซิล ป่าฝนเขตร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เรียกได้ว่าเป็น ‘ปอดของโลก’ ชาวโซเชียลมีเดียร่วมติด #PrayForAmazon จนขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์
4.3 • ไฟป่าที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
4.4 ไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้ลุกโหมกินพื้นที่ไปแล้วกว่า 9 แสนไร่ โคอาลาอีกไม่น้อยกว่า 350 ตัวต้องสังเวยชีวิต รวมถึงสัตว์ป่าอีกหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งไฟป่ายังทำให้สภาพอากาศในเมืองซิดนีย์เต็มไปด้วยหมอกควันปกคลุมจนมืดครึ้ม นับเป็นสถานการณ์ภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลาย 10 ปีของออสเตรเลีย
สังเกตุได้ว่า ภาวะโลกร้อนนั่น ปัจจุบันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แทบจะทั่วทุกมุมโลกเลย และปัจจุบันก็เริ่มมีการรณรงค์ ให้ในเรื่องของการ ลดการใช้พลาสติก ลดการเผาป่า หันมาดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น แต่นั้นก็เป็นการแก้ปัญหาแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะโลกของเรานั้น บอบช้ำมานานนับหลาย10-20ปี สิ่งสำคัญเราทุกคนต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่เพียงแค่ความรับผิดชอบของเพียงใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคนและสิ่งสำคัญต้องเริ่มจากตัวของเราก่อนเท่านั้นเอง
หากใครสงสัยว่าโลกเราร้อนได้ยังไง ทำไมโลกถึงเกิดภัยพิบัติมากมาย สาเหตุและปัจจัย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ขอบคุณข้อมูลจาก …
- https://thestandard.co/now-next-2020-2/
- https://www.youtube.com/watch?v=wWYH02rtOJs
- https://www.youtube.com/watch?v=9vRRJMVzZ8M
ขอบคุณรูปภาพจาก …
- Sky News Weather
- GETTY IMAGES
- Thai News Pix
- Nation Photo
- Reuters
- EPA
- FACEBOOK/CHECKIN CHIANGMAI
- https://forbesthailand.com/news/global/polar-vortex-สหรัฐ.html
- https://www.bbc.com/thai/
- https://www.posttoday.com/
- https://www.khaosod.co.th/
- https://www.prachachat.net/
- https://www.thairath.co.th/
- https://www.voathai.com/
- https://www.tnews.co.th/
ร่วมแสดงความคิดเห็น