หนึ่งเดียวในโลก! เวียนเทียนโบราณสถานกลาง’กว๊านพะเยา’

เทศกาลเวียนเทียนทั่วทั้งเมืองไทย ใครต่างก็เดินเวียนเทียนกันรอบพระอุโบสถ ไม่ก็เวียนรอบพระธาตุเจดีย์หรือองค์พระพุทธรูปสำคัญกลางกว๊านพะเยา เหมือนที่จังหวัดพะเยา เพราะที่นี่มีวัดร้างโบราณ คือวัดติโลกอาราม เมื่อถึงวันเทศกาลเวียนเทียน ผู้คนเมืองนี้จะเวียนเทียนไม่เหมือนที่ใดในโลก

โดยเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า จะมีการนำดอกไม้ธูปเทียนบูชา จุดไฟสว่างไสว ล่องเรือไปเวียนเทียนบูชาองค์พระปฏิมากลางน้ำ 3 รอบ ซึ่งถือเป็นแห่งเดียวในโลกมีอยู่ที่นี่ ในวันเพ็ญเดือน 3 เดือน 6 และเดือน 8 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา จะมีพิธีเวียนเทียนกลางน้ำในยามใกล้ค่ำ บริเวณกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา เมื่อถึงวันนี้พุทธศาสนิกชน ต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียน ล่องเรือไปเวียนเทียนบูชาองค์หลวงพ่อศิลา กลางน้ำ 3 รอบ

กว๊านพะเยาในยามเดือนเพ็ญ จึงสวยสดงดงามไปด้วยแสงประทีบ ท่ามกลางสีสันของท้องฟ้าและผืนน้ำกว้างใหญ่ในวันพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นอีกภาพหนึ่งที่น่าประทับใจไม่เหมือนที่ใดในโลก จนได้รับการขนานนามว่า “เวียนเทียนกลางน้ำ หนึ่งเดียวในโลก ที่กว๊านพะเยา”

ด้วยบรรยากาศของเมืองริมน้ำที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เมืองพะเยาเป็นเมืองที่น่าพักผ่อนท่องเที่ยว และยังได้รับความสุขสวัสดี จากการร่วมทำบุญและสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่ชาวเมือง ได้ร่วมกันรักษาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

ในปีนี้ จังหวัดพะเยาเตรียมพร้อม สำหรับการจัดงานเวียนเทียนกลางน้ำเนื่องในวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ณ บริเวณท่าเรือวัดติโลกอาราม กำหนดประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา การตักบาตรข้าวเหนียวบริเวณท่าเรือวัดติโลกอาราม ถึงลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง มีกิจกรรมการสาธิต/จำหน่ายผลงานภูมิปัญญาท้องถิ่นของเครือข่ายวัฒนธรรม ส่วนภาคค่ำเริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น. ประกอบพิธีเวียนเทียนทางน้ำ ณ วัดติโลกอาราม กลางกว๊านพะเยา ซึ่งมีหลวงพ่อศิลา พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ มีอายุกว่า 500 ปี

นอกจากนี้ จังหวัดพะเยา ยังได้เตรียมเรือพายกว่า 100 ลำ ในการเวียนเทียนทางน้ำ และเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจากที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมาร่วมเวียนเทียนมาก จนเรือไม่เพียงพอ ส่วนบรรยากาศภายในงาน จะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟบริเวณงาน และเรือพาย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การปล่อยโคมลอยกว่า 1,000 ลูก เชื่อแน่ว่าจะสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาร่วมเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยา

สำหรับกิจกรรมนั่งเรือพายเวียนเทียนทางน้ำ รอบวัดติโลกอาราม กลางกว๊านพะเยา เป็นการ “เวียนเทียนทางน้ำ หนึ่งเดียวในโลก ที่กว๊านพะเยา” ในรอบปีหนึ่งจะจัดอย่างอลังการเพียง 3 ครั้ง เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา หลังวันสำคัญ นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเรือพายไปไหว้สักการะหลวงพ่อศิลา กลางกว๊านพะเยา ได้ทุกวัน โดยจะมีเรือพายของ กลุ่มประมงพื้นบ้าน จอดบริการแก่นักท่องเที่ยว ที่ท่าเรือวัดติโลกอาราม

สำหรับประวัติวัดแห่งนี้ โดยใน พ.ศ.2526 ชาวประมงพื้นบ้านได้ไปพบพระพุทธรูปหินทราย ศิลปะพะเยา อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พบบริเวณเนินดินของฐานพระเจดีย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า บริเวณสันธาตุ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้า หรือก่อนที่จะทำประตูระบายน้ำกั้นเป็นกว๊านพะเยา เมื่อ พ.ศ.2482 ไม่เคยมีใครพบเห็นองค์พระ แม้กระทั่งคนที่ไปใช้พื้นที่บริเวณสันธาตุทำกิจกรรมอื่น ๆ เมื่อน้ำลด ยังไม่เคยพบเห็น ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างมาก จากนั้นได้นำขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดศรีอุโมงค์คำ

จนเมื่อ พ.ศ.2550 สมัย นายธนเษก อัศวานุวัตร มาเป็น ผวจ.พะเยา จึงได้มีการบูรณะบริเวณสันธาตุ และพบศิลาจารึกโดยบังเอิญ เมื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ พร้อมกับอ่านข้อความจึงทราบว่าเป็น วัดติโลกอาราม สร้างมากว่า 500 ปี ส่วนพระพุทธรูปที่พบเมื่อพิสูจน์จากเนื้อหิน มีอายุในราวเดียวกัน ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อว่า “หลวงพ่อศิลา” และได้มีการทำกิจกรรมทางศาสนาในวัน สำคัญ คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ด้วยการเวียนเทียนรอบวัดติโลกอาราม ถือเป็นการเวียนเทียนวัดกลางน้ำแห่งเดียวในโลก มีเสียงกล่าวขวัญกันว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ฤดูกาลแห่งการทำบุญที่ดีที่สุดคือ วันเพ็ญเดือน 3 เดือน 6 และเดือน 8 และจุดชมวิวที่ดีที่สุดอยู่ที่ วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ถึงแม้วัดจะจมอยู่ในน้ำ แต่ศรัทธาของคนไม่ได้จมตาม จึงกลายเป็นที่มาของเทศกาลเวียนเทียนกลางกว๊านพะเยา โดยมีการลอยเรือเวียนเทียนกันกลางน้ำ หนึ่งปีมีเพียง 3 หนเท่านั้น คือ วันมาฆะบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา ที่พระภิกษุและชาวบ้านจะลอยเรือเวียนเทียนกลางน้ำโดยเท้าไม่ติดดิน..

บทความโดย
จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น