พิธีเปิดโครงการประสานและส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟปาและหมอกควัน ระดับท้องถิ่น ไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.00 น.ที่ บริเวณตลาดการค้าชายแดนห้วยโก๋น ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน /ท่านพงสะหวัน สิกทะวง เจ้าแขวงไชยบุรี สปป.ลาว ร่วมกันเป็นประธานเปิดงานโครงการประสานและส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟปาและหมอกควัน ระดับท้องถิ่น ไทย – สาธารณรัฐประชาธิปตยประชาชนลาว ซึ่งมี นายกิตติไกร ฝีปากเพราะ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมคณะให้การต้อนรับ โดยมีนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 กล่าวรายงานโครงการ ในนามของคณะทำงานโครงการ ท่านคำแพง ตัดสะหวัด เจ้าเมืองเมืองเงิน พันเอก รุศนตรี จิณเสน รอง ผอ, กอ.รมน(ฝ่ายทหาร)/นายปรีชา​ โตมี​ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน / นายวิชาญ วรรณพงษ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคงอำเภอเฉลิมพระเกียรติ / นายราเชนทร์​ ศรีชัย​ นายก​ อบต./ นายสำราญ อินทนะ​ ปลัด​ อบต​. ห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อบต.ห้วยโก๋น / กองร้อยทหารพราน ที่ 3204 / สภ.เฉลิมพระเกียรติ / สภ.งอบ / หมวดการทางเฉลิมพระเกียรติ และกองร้อย อส.เฉลิมพระเกียรติ/ สสอ.เฉลิมพระเกียรติและเจ้าหน้าที่ ปภ.อบต.ห้วยโก๋น /นายจำรัส อินแก้ว รักษาการ หัวหน้า สนง.ปภ.จ.น่าน สาขาเชียงกลาง และหน่วยงานภาครัฐ/ ภาคประชาชน ภาคเอกชน /สถานศึกษา / สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำหรับโครงการประสานและส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับท้องถิ่น ไทย – สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในครั้งนี้

จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ปา และพันธุ์พืชพบว่าสถิติของการเกิดไฟปาในประเทศไทย ล้วนเกิดจากน้ำมือของมนุษย์แทบทั้งสิ้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเก็บหาของป่า(การล่าสัตว์) และการเผาไร่ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตามล้วนแต่ส่งผลทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมพื้นที่ทั้งสิ้น การเกิดหมอกควันดังกล่าว มีทั้งเกิดขึ้นกายในประเทศหรือเกิดจากต่างประเทศบริเวณที่ประสบปัญหาจะอยู่บริเวณรอยต่อของพรมแดน เกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดนปัญหาเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและอีกนานานับประการดังนั้น แนวทางในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การร่วมกันระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการดำเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน บริเวณพื้นที่ ที่มีรอยต่อระหว่างประเทศ อาทิ เช่น การรณรงค์ให้ประชาชนในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านในระดับท้องถิ่น ไม่จุดไฟเผาป่า จากการประชาสัมพันธ์ ชี้แนะให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ ความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนผลเสียอันเนื่องมาจากการจุดไฟเผาป่าทำให้ประชาชนเกิดความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องต่อปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนรู้วิธีการป้องกัน และหันมาร่วมมือกันป้องกันไฟป่า เป็นต้น

นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 กล่าวว่า ดังนั้นสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) จึงได้จัดโครงการประสานและส่งเสริมความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหาไฟป้าและหมอกคว้พระดับท้องถิ่น ไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขึ้น โดยวัตถุประสงค์ เพื่อประสานและส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระหว่างบ้านห้วยโก๋น ตำบลห้วยโก๋นอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน กับบ้านน้ำเงิน เมืองเงินแขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการป้องกันและแก้ไปปัญหาไฟป่าและหมอกควันระหว่างอำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดน่าน กับ เมืองเงิน แขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างบ้านห้วยโก๋นตำบลห้วยโก๋น อำภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดน่าน กับบ้านน้ำเงิน เมืองเงิน แขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งโครงการดังกล่าว มีกิจกรรม มีกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนเสวนาในระดับผู้นำของทั้งสองฝ่ายโดยฝ่ายของ ประเทศไทย คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ส่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือท่านเจ้าแขวงเมืองไชยบุรี เป็นการหาทางออกและแก้ไขปัญหาร่วมกันในเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้รับผลกระทบ และมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับไฟป้าและหมอกควันการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

โดยผู้แทน ทั้ง 2 ประเทศ และการจัดทำแนวกันไฟร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ต่อกันโดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ/หั้งเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชพ และประชาชพ อำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดน่าน และ บ้านน้ำเงิน เมืองเงิน แขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาขนลาว รวมทั้งสิ้น 500 คนความร่วมมือในระดับท้องถิ่น​ ไทย​ -​ สปป.ลาว​ แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันประชาสัมพันธ์ชี้แนะให้ประชาชนทั้งสองประเทศจะถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตลอดจนผลเสียอันเนื่องมาจากการจุดไฟเผาป่า และจะทำให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีถูกต้องต่อปัญหาไฟป่าและหมอกควันตลอดจนรู้วิธีการป้องกันและหันมาร่วมมือกันป้องกันไฟป่าในครั้งนี้อีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น