สำนักงานพาณิชย์เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การผลิตหน้ากากอนามัย

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมด้วยผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ออกตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การผลิตหน้ากากอนามัย ดังนี้

1. โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในพื้นที่อำเภอสันกำแพง จำนวน 1 ราย และอำเภอสารภี จำนวน 1 ราย เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตหน้ากากอนามัย และกำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง การกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติม, ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่องการควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย, ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง การแจ้งข้อมูล การแสดงราคา และการปันส่วนหน้ากากอนามัย ซึ่งพบว่าปัจจุบันผู้ผลิตทั้งสองรายมีกำลังการผลิตรวม 220,000 ชิ้น/วัน ซึ่งได้ทำการผลิตหน้ากากอนามัยเต็มกำลังผลิตสูงสุด และทยอยส่งมอบตามระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญาที่ได้ทำไว้ ในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตทั้งสองโรงงานยังมีเพียงพอสำหรับใช้ในการผลิตตามคำสั่งซื้อที่ได้รับไว้จนถึงต้นเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน แต่ขณะนี้ตัวแทนจำหน่ายวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตแจ้งชะลอการส่งมอบ

2. ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายปลีกหน้ากากอนามัยของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกและร้านขายยาในพื้นบริเวณใกล้เคียงศูนย์ราชการ พบว่าสินค้ามีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค สินค้าบางรายการ เช่น หน้ากากแบบ N95 (ยี่ห้อ 3M) เริ่มขาดตลาด เนื่องจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องเพิ่มมากขึ้น การสั่งซื้อสินค้าของผู้ประกอบการต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น 1–3 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า จึงทำให้ผู้ประกอบการบางรายจำกัดปริมาณการซื้อไม่เกินรายละ 5–10 ชิ้นต่อคน เพื่อให้สินค้าได้กระจายไปยังผู้บริโภคอย่างทั่วถึง ราคาจำหน่ายปลีกหน้ากากอนามัย (ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5) ราคาชิ้นละ 15–150 บาท ขึ้นกับชนิด คุณภาพ และยี่ห้อ หน้ากากอนามัย แบบธรรมดา (ไม่กันฝุ่นละออง PM2.5) ราคาชิ้นละ 5–8 บาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น