ยื่นหนังสือสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ครู

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา นายสมจิต สุวรรณบุษย์ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเครื่องข่ายสมาชิกจำนวนหนึ่ง ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้มีการสั่งยุติบทบาทหน้าที่การบริหารงานของคณะกรรมการบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนเป็นการชั่วคราว และให้มีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาเพื่อเข้าไปตรวจสอบการบริหารจัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูของคณะกรรมการชุดดังกล่าว หลังสงสัยว่าไม่โปร่งใส และระบบบริหารทำอย่างประมาทเลินเล่อ ทำให้สหกรณ์ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถนำเงินผลกำไรจำนวน 44 ล้านบาท มาจัดสรรเงินปันผลและเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกได้ ส่งผลให้สมาชิกได้เงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนน้อยลงจากเดิม จนทำให้สมาชิกเดือดร้อนไม่มีเงินแม้แต่จะส่งในโครงการประกันชีวิตของสหกรณ์ ฯ

โดย นายสมจิต สุวรรณบุษย์ ตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่เข้ายื่นหนังสือต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ทางสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน เกิดข้อกังวล สงสัยในการบริหารงานของคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนในรอบปีที่ผ่านมา ทำให้ผลการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ มีรายได้จากผลกำไรสุทธิประจำปีลดลง เหลือเพียงจำนวน 77,501,623 บาท ซึ่งต่างจากผลกำไรสุทธิปี 2561 ที่มีจำนวนถึง 123,501,623 บาท ส่งผลให้ปีการจัดสรรเงินปันผลลดลงในอัตราร้อยละ 4 และเงินเฉลี่ยคืนลดลงในอัตราร้อยละ 8 ดังนั้นทางสมาชิกจำนวนหนึ่ง ที่คาใจสงสัยในการบริหารงานของคณะกรรมการที่ไม่โปร่งใสในหลายประการ ทั้งเรื่องการให้สหกรณ์อื่นกู้ยืมเงิน การซื้อและแบ่งจัดสรรที่ดิน การกู้ยืมเงินจากสหกรณ์ในจังหวัดพิจิตร การอนุมัติค่าตอบแทนการบริหารงานของคณะกรรมการสหกรณ์ที่มากเกินความเป็นจริง จึงอยากให้ทางผู้ราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบ และสั่งให้ยุติการบริหารงานของคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุดปัจจุบันชั่วคราว หากตรวจสอบแล้วว่าไม่มีความผิดหรือบริหารงานโปร่งใส ทางสมาชิกสหกรณ์ที่คัดค้าน ก็จะยอมรับในการตรวจสอบของคระกรรมการกลางให้มีการบริหารงานต่อไป

โดยในเบื้องต้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เชิญทางสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน มาร่วมชี้แจงถึงระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ และกรณีที่ตรวจบัญชีสหกรณ์มีคำสั่งให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน ตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญไว้จำนวน 44 ล้านบาท จากกรณีที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนนำเงินไปฝาก และให้กู้ยืมกับสหกรณ์การเกษตรอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และต่อมาสหกรณ์เกษตรอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนขาดสภาพคล่องทางการเงินไม่สามารถชดใช้เงินให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนได้ จนไม่สามารถที่จะนำเงินจำนวน 44 ล้านบาท ไปจัดสรรปันผลและเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนยืนยันจะมีการทำความเข้าใจและหาทางออกให้กับทั้งสองฝ่ายต่อไป

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายสงวน ศรีสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนหลังจากมีการประชุมคณะกรรมการที่สำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนแล้วได้เปิดแถลงข่าวตอบโต้ ว่าการการดำเนินงานของสหกรณ์มีกำไรทุกปี ไม่ได้ขาดทุนหรือจะล้มตามทีมีการล่ำลือกัน ขอยืนยันว่าสหกรณ์ยังมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิกสามัญและสมทบ 6,000 กว่าคน มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 3,800 ล้านบาท ปีที่ผ่านมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท แต่ไม่สามารถนำมาปันผลและเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกได้ทั้งหมด เนื่องจากทางสหกรณ์มีการนำผลกำไรตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญเป็นเงินรวม 44 ล้านบาท ตามคำสั่งของกรมการตรวจบัญชี

จากกรณีสหกรณ์การเกษตรอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนไม่สามารถคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ยืมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไปได้ เนื่องจากอดีตผู้จัดการคนก่อนทุจริตฉ้อโกงเงินแล้วหลบหนีออกต่างประเทศไป ดังนั้นจึงเหลือเงินกำไรสุทธินำมาปันผลให้กับสมาชิกอยู่ประมาณ 77 ล้านบาท ทำให้สมาชิกที่เคยได้ปันผลอยู่ที่ 5.75 บาท ในปีนี้เหลือเพียง 4 บาท ลดลงไป 1.75 บาท และเงินเฉลี่ยคืนจากที่เคยได้ 12 บาท เหลือเพียง 8 บาท ลดลง 4 บาท ซึ่งตรงนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสมาชิก ทางคณะกรรมการมีแนวทางที่เยียวยาโดยการลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 6.50 บาทต่อปี ให้เหลือร้อยละ 6 บาทต่อปี ลดการถือครองหุ้นสหกรณ์จากร้อยละ 10 ของรายได้ให้เหลือร้อยละ 4 เริ่มตั้งแต่พร้อมคืนเงินสดค่าประกันชีวิตให้กับสมาชิกรายละ 1,000 บาท

ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปอีกว่า เงินผลกำลังไรที่ลดลงจากการปันผล และเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกไม่ได้หายไปไหนยังอยู่ที่สหกรณ์ แต่จำเป็นต้องตั้งเป็นค่าเผื่อไว้สงสัยหนี้จะสูญ แต่ถ้ากรมการตรวจบัญชีอนุญาตให้นำมาปันผลให้กับสมาชิกได้ก็สามารถทำได้ทันที ส่วนสหกรณ์การเกษตรอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ที่ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้นั้น ได้มีการจัดทำหนังสือรับสภาพหนี้เป็นหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำนวน 44 ล้านบาท และมีการวางแผนคืนทั้งเงินต้นและดอกในปี 2563 นี้อย่างเป็นระยะและต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ตนและผู้บริหารทุกคนขอยืนยันว่าทำตามหลักการของสหกรณ์ ไม่คิดจะทุจริตหรือโกงใด ๆ ทั้งสิ้น และตนเชื่อว่าสมาชิกกว่า 80 % เข้าใจในการบริหารงานต่าง ๆ ของคณะกรรมการบริหารชุดนี้เป็นอย่างดี.

ร่วมแสดงความคิดเห็น