ชาวบ้านสุดทน! ลานรับซื้อยางพาราส่งกลิ่นเหม็น ร้องเรียนมานานกว่า 1 ปี ไม่เป็นผล

วันที่ 17 ก.พ. 63 มานายณรงค์ ซาวคำเขต ปลัดอาวุโส อ.เวียงชัย นายทวีศักดิ์ นาทอง ปลัดเทศบาล ต.ดอนศิลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงชัย ได้ไปรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านดอนเหนือ หมู่ 16 และหมู่บ้านข้างเคียงจาก ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ประมาณ 100 คน ที่ได้รวมตัวกันที่อาคารศาลาประชาคมหมู่บ้านดอนเหนือ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากลานรับซื้อยางพาราซึ่งตั้งอยู่เขต หมู่บ้านสันม่วงคำ หมู่ 7 ต.ดอนศิลา หลังจากปัญหาส่งกลิ่นเหม็นและมีการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2562 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยชาวบ้านได้ถือป้ายข้อความต่างๆ เช่น เหม็นขี้ยาง ออกกำลังกายไม่ได้เพราะเหม็น ต้องการอากาศบริสุทธิ์

โดยปัญหากลิ่นเหม็นดังกล่าว เกิดขั้นมาตั้งแต่ปี 2561 ชาวบ้านเคยรวมตัวเรียกร้องช่วงเดือน มี.ค. 62 โดยทางฝ่ายปกครอง อ.เวียงชัย และเทศบาล ต.ดอนศิลา ได้ช่วยแก้ไขปัญหาโดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และเจรจากับผู้ประกอบการรับซื้อยางพารารายดังกล่าวแล้วว่าที่ผ่านมา กลิ่นของยางพาราอยู่ในทิศทางลมที่พัดไปสู่หมู่บ้านดอนเหนือและใกล้เคียงดังกล่าว จึงขอให้ผู้ประกอบการแก้ไขปัญหา แต่ปัญหายังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก ทางเทศบาลดอนศิลาจึงได้ส่งหนังสือให้ระงับการประกอบกิจการรับซื้อชั่วคราว และขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเสียให้ถูกต้องซึ่งผู้ประกอบการก็รับปากจะดำเนินการและแจ้งว่าจะแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันชาวบ้านก็ยังเดือดร้อนหนักเช่นเดิม

นางเพลินตา ตันเฟย อายุ 56 ปี ชาวบ้านดอนเหนือ กล่าวว่า เดิมชาวบ้านโดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านและผู้หญิงจะพากันออกมาเต้น เพื่อออกกำลังกายที่ลานศาลาประชาคมหมู่บ้าน แต่หลังจากมีกลิ่นเหม็นดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ ตนเองเคยป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจมาก่อนก็กลายเป็นโรคหลอดลมตีบทำให้หายใจติดขัดอีกด้วย เพราะต้องทนสูดดมกลิ่นนานข้ามปี และหลังจากมีการรับปากจะแก้ไขปัญหาจนทำให้ชาวบ้านอดทนมาแล้วกว่า 1 ปี คิดว่าจะไม่ทนอีกต่อไป จึงอยากให้แก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพราะทางเจ้าของลานรับซื้อไม่เพียงแต่จะไม่แก้ไขกลับยังข่มขู่ชาวบ้านอ้างว่าไม่เกรงกลัวใครไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้อีกด้วย

น.ส.รัตนสุกาญจน์ เมืองมาคำ ชาวบ้านที่ได้รับความดือนร้อนอีกคน กล่าวว่า กลิ่นเหม็นจากยางพารา อยู่ที่ไหนก็มีแต่กลิ่นเหม็น ส่งผลกระทบด้านมิลพิษทางอากาศต่อชาวบ้านอย่างหนัก ทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถรับประทานอาหารได้ บางคนต้องป่วยเข้าโรงพยาบาล ซึ่งอยากให้ภาครัฐเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ ลำพังชาวบ้านไม่ได้คัดค้านให้ไม่มีลานรับซื้อแต่อยากให้ตั้งอยู่ไกลจากชุมชนอีกหน่อยในจุดที่ไม่มีผลกระทบมาถึงชาวบ้าน

นายสำราญ แลน้อย อายุ 56 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางภาคเอกชนเคยมาทำประชาคมขอตั้งลานรับซื้อเช่นกันแต่ประชาคมไม่ผ่านมีเพียงร้อยละ 40 เท่านั้นที่ให้ผ่าน เพราะเป็นผู้กลุ่มผู้ปลูกยางพาราเกรงจะไม่มีจุดจำหน่ายน้ำยาง แต่ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 60 ไม่เห็นด้วย เพราะไม่มีระบบบ่อบำบัดน้ำเสียที่ดี ที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่ถึง 2 กิโลเมตร ไม่มีใบประกอบการเพราะกลิ่งยางพารานั้นเหม็นมาก อีกทั้งน้ำยางที่หล่นใส่พื้นถนนนั้นมีความลื่นมากเมื่อฝนตกทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับชาวบ้านแล้วหลายราย

ด้านนายณรงค์ ชี้แจงต่อชาวบ้านว่าที่ผ่านมาทางราชการได้ดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่แล้ว โดยกรณีนี้เข้าข่ายตาม พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ให้เทศบาลส่งหนังสือไปถึงผู้ประกอบการแล้วดังกล่าว แต่กฎหมายก็เปิดช่องให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นอุธรณ์คำสั่งได้ภายใน 30 วัน ปรากฎว่าคณะกรรมการพิจารณาอุธรณ์เห็นควรให้ถอนคำสั่งของเทศบาลดังกล่าวเสีย ทำให้ไม่มีผลในทางปฏิบัติอีก กระทั่งเรื่องราวผ่านมาค่อนปีและชาวบ้านได้เรียกร้องครั้งใหม่นี้ดังกล่าว ดังนั้นจึงจะให้ทางเทศบาลได้แจ้งไปยังผู้ประกอบการภายในวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. นี้ เพื่อให้มาทำประชาคมร่วมกับชาวบ้านและหากไม่ดำเนินการ หลังจากนั้นในสัปดาห์ถัดไปเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะเข้าไปตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับเอกชนรายดังกล่าวต่อไป

แต่ทางชาวบ้านไม่ยินยอมตามที่ทาง อ.เวียงชัย เสนอเพราะเกรงว่าจะปัญหาจะเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมเพราะได้ทนทุกข์มากว่า 1 ปีแล้ว จึงขอให้มีการดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทำให้ทางฝ่ายปกครอง อ.เวียงชัย ได้ประสานไปยัง สภ.เวียงชัย เพื่อให้ตัวแทนชาวบ้านไปปรึกษาเรื่องการจะดำเนินคดีกับผู้ประกอบการรายดังกล่าว เบื้องต้นได้รับคำแนะนำว่าผู้ที่จะเป็นเจ้าทุกข์คือเจ้าพนักงานท้องถิ่นคือเทศบาล ต.ดอนศิลา ทำให้ชาวบ้านสลายตัวและรอฟังผลการดำเนินคดีดังกล่าวว่าจะออกมาในรูปใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น