กลุ่มแม่บ้านใน อ.ดอยสะเก็ด ผลิตแหนมกบเจ้าแรกในไทย สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าได้หลายเท่าตัว

กลุ่มแม่บ้าน บ้านโป่งสามัคคี ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำกบที่น็อกน้ำแข็งมาลอกหนังออก ก่อนนำไปล้างให้สะอาดและสับแยกชิ้นส่วน เพื่อนำเนื้อน่อง และสะโพกมาทำแหนม ส่วนขากบ หัวกบ จะแยกออกมาเพื่อนำไปทำเมนูทอดกระเทียม และหนังกบจะนำไปทอด หรือ ตากแห้ง หลังแยกชิ้นส่วนกบจนได้ส่วนเนื้อติดกระดูกที่ต้องการนำไปทำแหนมแล้วจะนำไปล้างให้สะอาด จากนั้นจึงนำวัตถุดิบและส่วนผสมสำหรับทำแหนม เช่น กระเทียมไทย ข้าวสวย มาโขลกให้เข้ากัน ก่อนเทดินประสิว, เกลือ, ฟอสเฟต, ผงชูรส และน้ำตาล ลงไปแล้วโขลกจนส่วนผสมเข้ากัน นำไปคลุกเคล้ากับเนื้อกบที่เตรียมไว้ และเทผงซับน้ำลงไป เพื่อไม่ให้แหนมมีน้ำออกมามาก เมื่อส่วนผสมเข้ากับเนื้อกบแล้วจึงนำแหนมกบที่ได้ใส่ในถุงพลาสติกชั่งน้ำหนักให้ได้ 100 กรัม และมัดให้เป็นห่อแบบแหนมตุ้ม ทิ้งไว้ประมาณ 1- 2 วันก็สามารถรับประทานได้ โดยสามารถทานได้ทั้งแบบดิบ หรือนำไปทอดก็ได้รสชาติที่อร่อยไม่แพ้แหนมที่ทำจากหมู แต่จะนุ่มกว่า

ขณะที่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ของกบที่แยกไว้ เช่น ขากบ หรือหัวกบ และหนังกบ จะนำไปทอดกรอบ เป็นอาหารทานเล่น หรือเป็นกับข้าว ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากกบได้ทั้งตัว ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชาวบ้านที่มีอาชีพเลี้ยงกบ ซึ่งเดิมเน้นส่งขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อราคาตกต่ำจึงประสบปัญหาขาดทุน นายสุจิน แสงแก้ว รองนายกเทศบาลตำบลป่าเมี่ยง เจ้าของแนวคิดทำแหนมกบ เล่าว่า หมู่บ้านโป่งสามัคคี ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีการส่งเสริมให้ชาวบ้านที่นี่เลี้ยงกบ แต่ละปีชาวบ้านที่เลี้ยงกบจะรอขายเฉพาะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ และลูกอ๊อด จึงมีกบที่ไม่ผ่านเกณฑ์น้ำหนักและขนาดตกค้างที่บ่อ ที่ผ่านมาได้ทดลองนำกบที่เหลือมาแปรรูปเป็นไส้อั่วขาย ได้รับการตอบรับในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเท่าที่ควร จึงมีแนวคิดทำแหนมกบ เพราะแหนมเป็นอาหารเหนือที่ได้รับความนิยม และเมื่อทดลองทำก็ได้รสชาติอร่อยไม่แพ้แหนมที่ทำจากเนื้อ เนื้อหมู หรือแหนมซี่โครง

 

โดยกบที่เลี้ยงปกติขายกิโลกรัมละ 80 – 120 บาท แต่เมื่อนำมาทำแหนม ใช้กบ 5 กิโลกรัมสด จะได้แหนมประมาณ 2.7 กิโลกรัม ขายห่อ 100 กรัมห่อละ 20 บาท นอกจากนี้ชิ้นส่วนอื่นๆของกบยังนำมาใช้ประโยชน์ในการทำเป็นอาหารได้อีกหลากหลาย ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาชีพเลี้ยงกบได้หลายเท่าตัว ด้านนางจันทกานต์ บาลชมภู ประธานกลุ่มแม่บ้าน บ้านโป่งสามัคคี บอกว่า การทำแหนมกบเป็นการต่อยอดจากอาชีพเลี้ยงกบ ถือเป็นไอเดียใหม่เป็นแห่งแรกของประเทศ ซึ่งเดิมในหมู่บ้านก็มีกลุ่มทำแหนมซีโครงและแหนมหมู แหนมไก่ขายกันอยู่แล้ว แต่แหนมกบยังไม่เคยทำ จึงทดลองทำและทานกันเองก่อน ปรากฏว่ารสชาติอร่อย จึงมีแนวคิดจะทำเป็นอาชีพ เพราะกบ 1 ตัว สามารถนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ซึ่งทางกลุ่มมีแผนจะขยายตลาดให้กว้างขึ้น
หากลูกค้าท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่นายสุจิน แสงแก้ว รองนายกเทศบาลตำบลป่าเมี่ยง 081 7247876

ร่วมแสดงความคิดเห็น