พุทธศาสนิกชนมาด้วยแรงศรัทธาตลอดวัน กราบสรีระ พระนักพัฒนาชาวไตลื้อ ต.บ้านถิ่น บนเมรุหัสดีลิงค์

ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากจ.แพร่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันฑ์ 2563 ที่วัดถิ่นใน ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่ได้การบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ พระครูวรกิตติสุนทร(สมฤทธิ์ กิตติธโร ป.ธ.5 น.ธ.เอก พธ.บ.) อายุ 58 ปี พรรษา 35 อดีตเจ้าอาวาสวัดถิ่นใน อดีตเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดถิ่นใน อดีตประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลบ้านถิ่น อดีตประธานศูนย์ปฏิบัติธรรม แห่งที่ 4 อดีตผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดถิ่นใน โดยในนี้26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เวลา 07.00 น. มีพระครูพิบูลพัฒนโกศล เต้าคณะอำเภอเมืองแพร่ เจ้าอาวาสวัดโศภนาลัย รักษาการเจ้าอาวาสวัดถิ่นในใน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ทำบุญตักบาตร ถวายพรพพระ เวลา 08.00 น.เปิดโอกาสให้สาธุชนร่วมทำบุญ ทอดผ้าบังสุกุล กราบสักการะตลอดทั้งวัน เวลา 10.00 น.พระสงฆ์ 20 รูปสวดพระพุทธมนต์  เวลา 11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาตั้งโรงทานบริการ ให้กับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานเวลา 20.00 น. สวดพระอภิธรรม แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดยพระราชเขมากร เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร พระอารามหลวง เป็นองค์เทศน์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พุทธศาสนิกชนที่มาร่วสมงานต่างก็ได้ชื่นชมรเมรุที่ทำเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เป็นอย่างยิ่ง โดยเรื่องราวของความเชื่อของนกหัสดีลิงค์เป็น เรื่องตำนานเล่าขานเล่าต่อๆกันมาว่า นกหัสดีลิงค์ นกขนาดใหญ่รูปร่างแปลกๆ ในนิยายที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็มี เช่น หงส์ พญาครุฑ นกหัสดิน แต่เรื่องราวของนกหัสดีลิงค์ นี้ไม่ปรากฏชัดเจนเฉพาะเรื่อง แต่พอจะประมวลได้จาก นิทานชาดกบ้าง ตำราสัตว์ป่าหิมพานต์บ้างเมื่อสรุปจะได้ความสังเขปว่า ตำนาน นกหัสดีลิงค์ นกใหญ่ในป่าหิมพานต์นกหัสดีลิงค์ เป็นนกใหญ่ชนิดหนึ่งในเทวนิยาย รูปตัวส่วนใหญ่เป็นนก แต่จงอยปากเป็นงวงอย่างงวงช้าง มีลำตัวที่ใหญ่อีกทั้งมีกำลังเทียบเท่าช้าง 5 เชือกมารวมกัน มีถิ่นที่อยู่ ณ เชิงเขาพระสุเมรุ ณ สถานที่นั้นเองเป็นป่าไม้ที่ชื่อว่า “ป่าหิมพานต์” นิสัยของนกหัสดีลิงค์ชอบที่จะกินของสดๆ เป็นอาหาร โดยนกหัสดีลิงค์นี้สันนิษฐานว่า น่าจะถือกำเนิดในอินเดียก่อนแล้วจึงแพร่เข้ามาในดินแดนล้านนา โดยในล้านนานั้นเรียกเพียงสั้น ๆ ว่า “นกหัส”L, ประเพณีและความเชื่อเกี่ยวกับนกหัสดีลิงค์ ความเชื่อของชาวล้านนาแต่อดีตกาลนิยมสร้างปราสาทนกหัสดีลิงค์ เพื่อบรรจุศพของกษัตริย์เจ้านายฝ่ายเหนือ รวมถึงพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มรณภาพ เพื่อให้พิธีศพสง่างาม สมฐานะบารมี และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่ชาติสรวงสวรรค์ชั้นพรหมโลก เทวโลก แต่ในปัจจุบัน ปราสาทนกหัสดีลิงค์ นิยมใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้นนางสีดาฆ่านกหัสดีลิงค์บางตำนานเกี่ยวกับ “นกหัสดีลิงค์” เชื่อว่า มาจากตำนานโบราณของ นครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งนครนั้นถึงแก่สวรรคต ต้องอัญเชิญพระศพออกไปฌาปนกิจที่ทุ่งหลวง มีนกหัสดีลิงค์ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร บินมาจากป่าหิมพานต์ จึงบินโฉบลงมาเอาพระศพไป เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้นก็ประกาศให้คนดี เข้าต่อสู้เพื่อเอาพระศพคืนมา นางสีดาจึงเข้ารับอาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ โดยใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตาย ตกลงมาพร้อมพระศพ พระมหาเทวี จึงโปรดสั่งให้ช่างทำเมรุคือหอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์ แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน หลังจากนั้นมาจึงได้ถือเอาประเพณีทำนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุของชั้นเจ้านาย ตามความเชื่อที่ว่า นกหัสดีลิงค์ สามารถนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น