(มีคลิป) ทาสยานรก หนุ่มเชียงใหม่ วิ่งราวกระเป๋าสาวบราซิล หวังเงินซื้อยาเสพ

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.ฯ ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.ตรีเพชร ป่าหวาย สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.ชุวาพล ชัยสาร สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.ไกรสร คำสอน รอง สว.สส.ฯ พร้อมกับพวก

ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายหนึ่ง อายุ 32 ปี ชาว ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พร้อมด้วยของกลาง
1. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาว – ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กด 6044 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน (คันที่ผู้ถูกจับใช้ในขณะกระทำความผิดและหลบหนี)
2. ธนบัตรประเทศบราซิล 10 REAIS จำนวน 1 ฉบับ
3. ธนบัตรดอลล่าร์ 100 ดอลล่าร์ จำนวน 1 ฉบับ
4. เสื้อผ้า และรองเท้าที่ นายวงศ์ตะวัน หรือหนึ่งฯ ผู้ถูกจับสวมใส่ในการก่อเหตุ จำนวน 1 ชุด
5. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Apple iPhone 11 Pro Max ขนาด 256 GB สีทอง จำนวน 1 เครื่อง
6. อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 1 ชุด

โดยกล่าวหาว่า “ วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฏหมาย ”

ทั้งนี้ก่อนการจับกุม เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 20.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก พงส.เวรฯ ว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยว เหตุเกิดบริเวณริมถนนสิงหราช ซอย 1 ต.ศรีภูมิ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงบริเวณสถานที่เกิดเหตุ พบ Miss Camila Bieler Da Silva Cunha อายุ 22 ปี สัญชาติบราซิล ผู้เสียหาย จากการสอบถาม Miss Camila Bieler Da Silva Cunha ผู้เสียหายให้การว่า
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2563 เวลาประมาณ 20.15 น. ระหว่างที่ตนกับเพื่อนกำลังเดินอยู่ริมถนนสิงหราช ซอย 1 ต.ศรีภูมิ ได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ มาจากทางด้านหลังของตน และกระชากกระเป๋าสะพายของตนที่ตนกำลังสะพายอยู่ หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ซึ่งทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นกระเป๋าสะพายข้างสีดำ จำนวน 1 ใบ ข้างในมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Apple iPhone 11 Pro Max ขนาด 256 GB สีทอง จำนวน 1 เครื่อง, หูฟังไอโฟน 1 อัน, กระเป๋าสตางค์ สีชมพู ข้างในมีเงินสดไทย จำนวน 5,000 บาท ธนบัตรดอลล่าร์ 100 ดอลล่าร์ จำนวน 3 ฉบับ, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดเดบิท จำนวน 3 ใบ และเอกสารประจำตัวผู้เสียหาย จำนวน 2 ใบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ทั้งก่อน และหลังเกิดเหตุ พบภาพคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 175 ซม. สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีน้ำเงิน กางเกงแบบขาสามส่วน และรองเท้าผ้าใบ สีออกเทา ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาวดำ (ของกลางรายการที่ 1) มาตามถนนสิงหราช และเมื่อขับขี่มาถึงบริเวณปากซอยสิงหราช ซอย 1 ชายคนร้ายได้สังเกตเห็นผู้เสียหายเดินโดยสะพายกระเป๋าสะพายสีดำอยู่ ชายคนร้ายจึงทำทีขับขี่รถเลี้ยวเข้าไปในถนนสิงหราช ซอย 1 และวนกลับมา

จากนั้นได้ขับตามผู้เสียหาย จนกระทั่งถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ชายคนร้ายจึงได้ลงมือก่อเหตุ และหลบหนีไปออกถนนข้างเรือนจำ ตัดตรงถนนเวียงแก้วออกสู่ถนนสิงหราช ซอย 4 ขับไปจนถึงถนนศรีภูมิ และกลับรถเข้าสู่ถนนมณีนพรัตน์ และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยข้างปั๊ม ปตท. ข้างวัดโลกโมฬี และขับไปตามถนนช้างเผือก ซอย 2 ขับตัดผ่านถนนหัสดิเสวีไปทางถนนสันติธรรม เลี้ยวขวาไปทางห้าแยกสันติธรรม เลี้ยวซ้ายผ่านป้อมห้าแยกสันติธรรมไปตามถนนราชดำริ เลี้ยวขวาไปถนนสันติธรรม เลี้ยวขวาไปถนนเทพารักษ์ และขับย้อนออกมาถนนเทพารัก เลี้ยวซ้ายกลับมาถนนสันติธรรม ตรงไปจนกระทั่งมาถึงสี่แยกสันติธรรม ซอย 3 และเลี้ยวซ้ายเข้าหอพักนทีทิพย์ เลขที่ 16 ถนนสันติสุข ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (สถานที่จับกุม)

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจสอบในหอพักนทีทิพย์ฯ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน 1กด 6044 ภูเก็ต (ของกลางลำดับที่ 1) จอดอยู่ในลานจอดรถหอพักนทีทิพย์ฯ ซึ่งคล้ายกับยานพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ หลังจากนั้นมีชายไทยคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุ ตามภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ กำลังเดินมาที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เข้าไปหาชายคนดังกล่าวและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งยศ ชื่อ ตำแหน่งให้ชายคนดังกล่าวทราบ
จากการสอบถามชายคนดังกล่าว จนทราบชื่อคือ นายหนึ่ง ชัยศรี อายุ 32 ปี ที่อยู่ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ผู้ถูกจับ ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกำลังสอบถามนั้น ชายคนดังกล่าวมีท่าทีลุกลี้ลุกลน หน้าซีด และมีเหงื่อออกตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถาม นายวงศ์ตะวันหรือหนึ่งฯ ผู้กูกจับ ว่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ นายวงศ์ตะวัน หรือหนึ่งฯ ผู้ถูกจับรับสารภาพว่าได้เสพยาเสพติดไปเมื่อวาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงขอทำการตรวจค้นตัว
ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สอบถาม นายวงศ์ตะวันหรือหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2563 เวลาประมาณ 20.15 น. ที่บริเวณริมถนนสิงหราช ซอย 1 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวงศ์ตะวันหรือหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ ได้ให้การยอมรับว่าตามวันและเวลาดังกล่าว ตนเป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายจริง และทรัพย์สินที่ตนได้ เป็นกระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ ภายในมี โทรศัพท์มือยี่ห้อ Apple iPhone 11 สีทอง จำนวน 1 เครื่อง, กระเป๋าสตางค์ สีชมพู จำนวน 1 ใบ และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่อมาตนเองได้นำเงินสดที่ ได้ไปโอนเข้าบัญชีเพื่อซื้อยาเสพติดมาเสพ และใช้จ่ายจนหมดแล้ว ส่วนโทรศัพท์มือถือ (ของกลางรายการที่ 5) ตนเองได้นำไปซุกซ่อนไว้ใต้ล้อรถยนต์ ที่จอดอยู่ริมถนนซอยสันติสุข ต.ช้างเผือก และตนเองสมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดมาไว้ได้ ส่วนกระเป๋าและทรัพย์สินอย่างอื่นของผู้เสียหาย ตนเองได้นำไปทิ้งที่ถังขยะริมถนนในซอย อนมกระดังงา และในคูเมืองตรงยูเทิร์นหน้าไอคอนปาร์คหลังจากก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถามต่อเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายที่ นายหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ สวมใส่ในวันก่อเหตุ นายหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่า เครื่องแต่งกายที่ตนสวมใส่ในวันก่อเหตุอยู่ในห้องพักของตน และนายหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ สมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปที่ห้องพักของตน เมื่อไปถึงในห้องพักของ นายหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในห้องพักของนายหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายหนึ่งฯ ผู้ถูกจับ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบเสื้อผ้า และรองเท้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ (ของกลางรายการที่ 4) ซุกซ่อนอยู่ในห้องพักดังกล่าว และ พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 1 ชุด (ของกลางรายการที่ 6) จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี ได้ตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกายที่ รพ.หางดง แล้วพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทรษ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฏหมาย ” ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ปฏิเสธข้อหารับของโจร ให้การรับสารภาพข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น