“พาณิชย์” ส่งรถคาราวาน 111 คัน เตรียมขายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ 4 ชิ้น ราคา 10 บาท

กรมการค้าภายในเตรียมจัดรถคาราวาน 111 คัน นำหน้ากากอนามัยออกจำหน่ายทั่วประเทศ เริ่มวันที่ 5 มี.ค.นี้ หมุนเวียนไปตามชุมชน หวังให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด พร้อมเร่งกระจายผ่านร้านธงฟ้า 7-11 มินิ บิ๊กซี โลตัส เอ็กซ์เพรส ล่าสุดเพิ่มแฟมิลี่มาร์ท วอนประชาชนซื้อเท่าที่จำเป็น อย่ากักตุน เหตุยิ่งซ้ำเติมปัญหาขาดแคลน เล็งหาช่องเอาผิด “ลาซาด้า-ช้อปปี้-เจดี เซ็นทรัล” ปล่อยให้ขายออนไลน์ราคาแพงเอาเปรียบประชาชน ย้ำทางเฟซบุ๊ก ตามจับตลอด
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมฯ จัดรถคาราวานออกจำหน่ายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ รวม 111 คัน แยกเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 21 คัน และในต่างจังหวัด 90 คัน จะไปทุกจังหวัด ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ที่เพิ่มเข้ามา โดยรถแต่ละคันจะมีหน้ากากอนามัยประมาณ 1 หมื่นชิ้น จะหมุนเวียนออกจำหน่ายให้ทั่วถึงแต่ละชุมชน จำหน่ายให้ประชาชนคนละไม่เกิน 1 แพ็ค แพ็คละ 4 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2.50 บาท หรือแพ็คละ 10 บาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 5 มี.ค. 2563 นี้ และก่อนที่จะออกไปในแต่ละชุมชน จะแจ้งรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ของกรมฯ ก่อนที่จะออกเดินทางด้วย เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวรอซื้อ
ส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยช่องทางอื่น ๆ ที่กรมฯ ได้รับมาวันละ 6 แสนชิ้น ยังคงดำเนินการเหมือนเดิม คือ จำนวน 3.5 แสนชิ้น กระจายไปให้องค์การเภสัชกรรม 2 แสนชิ้น และอีก 1.5 แสนชิ้น กรมฯ ได้ประสานผู้ผลิตให้กระจายโรงพยาบาลโดยตรง คงเหลือ 2.5 แสนชิ้น จะกระจายให้กับสมาคมร้านขายยาที่มีสมาชิก 3 พันราย วันละ 2.5 หมื่นชิ้น การบินไทยวันละ 1.8 หมื่นชิ้น ที่เหลือจะกระจายผ่านร้านธงฟ้า เซเว่นอีเลฟเว่น มินิ บิ๊กซี โลตัส เอ็กซ์เพรส และล่าสุดได้เพิ่มแฟมิลี่มาร์ทเข้ามาอีก โดยจำกัดการซื้อคนละ 1 แพ็ค 4 ชิ้น ราคา 10 บาทเช่นเดียวกัน ซึ่งกรมฯ อยากจะขอความร่วมมือประชาชน ต้องยึดหลัก “เทใจให้กัน แบ่งปันกันใช้” เพราะหากซื้อเยอะ เวียนซื้อ หรือซื้อไปกักตุน จะทำให้คนข้างหลังไม่ได้ซื้อ ขอให้ซื้อแต่พอใช้ เพราะความจริงในปัจจุบัน ความต้องการเพิ่มขึ้นมากอย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรมฯ ยืนยันว่าหน้ากากอนามัยที่ได้รับจัดสรรมา ไม่มีหลุดออกไปจำหน่ายในช่องทางอื่นๆ ยกเว้นตามช่องทางที่กำหนด และในส่วนของโรงงาน ที่ยังมีหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้วันละ 7.5 แสนชิ้น (กำลังผลิตรวมต่อวัน 1.35 ล้านชิ้น แบ่งให้กรมฯ 6 แสนชิ้น เหลือ 7.5 แสนชิ้น) ทราบว่ามีการกระจายตามช่องทางการค้าปกติ แต่ไม่รู้ว่าโรงงานบริหารจัดการยังไง กระจายไปที่ไหนบ้าง ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ได้สั่งการให้เชิญโรงงานผู้ผลิต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน มาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาและกระจายหน้ากากอนามัยให้ทั่วถึงแล้ว ซึ่งต้องรอข้อสรุปว่าจะมีมาตรการอะไรออกมานายวิชัย กล่าวว่า กรมฯ กำลังหาช่องทางเอาผิดตามกฎหมาย กับแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ ที่เคยมาร่วมหารือกับกระทรวงพาณิชย์ ทั้งลาซาด้า ช้อปปี้ และเจดี เซ็นทรัล ที่เคยรับปากจะช่วยดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัย บนแพลตฟอร์มไม่ให้มีการค้ากำไรเกินควร แต่ทุกวันนี้ ยังมีการเปิดให้คนเข้ามาขายสินค้าแพง เอาเปรียบประชาชน ก็ต้องถือว่ามีความผิดด้วย ส่วนการจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก กรมฯ ได้ทำการตรวจสอบ และตามหาตัวผู้กระทำผิดโดยตลอด แต่ต้องยอมรับว่าตามตัวได้ยาก แต่กรมฯ ก็จะตามให้ถึงที่สุด และขอความร่วมมือให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1569 โดยต้องมีรายละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
สำหรับการจับกุมผู้ที่ค้ากำไรเกินควร ล่าสุดจับกุมได้แล้ว 51 ราย มีทั้งผู้ค้าทั่วไปและค้าออนไลน์ โดยส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จำนวน 31 ราย มีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท และผิดมาตรา 28 ในเรื่องปิดป้ายแสดงราคา 20 ราย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น